ไม่พบผลการค้นหา
กมธ.เด็ก รับลูกเครือข่ายภาคประชาชน จี้รัฐอุดหนุนเด็กแรกเกิด-6 ปีแบบถ้วนหน้า ให้ครอบคลุม 4.2 ล้านคนโดยไม่ต้องคัดกรอง ช่วงโควิด-19 แนะจ่่าย 6 พันบาทต่อเนื่องครึ่งปี

เครือข่ายภาคประชาสังคม 119 องค์กร นำโดยนางสุนี ไชยรส คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กสู่ถ้วนหน้า ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่าย เข้ายื่นข้อเรียกร้องต่อนางมุกดา พงษ์สมบัติ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือ กมธ.เด็ก สภาผู้แทนราษฎร ให้สนับสนุนข้อเสนอต่อรัฐบาล เรียกร้อง "รัฐต้องมีนโยบายสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า รวมทั้งไม่ทอดทิ้งเด็กเล็กในช่วงสถานการณ์วิกฤตโควิด - 19"

นางสุนี ระบุว่า ปัจจุบันภาครัฐอุดหนุนเงินเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด-6 ปี เดือนละ 600 บาท แก่เด็กที่อยู่ในครอบครัวยากจนหรือเสี่ยงต่อความยากจน คัดกรองรายได้เฉลี่ยครอบครัวละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปีนั้นไม่เพียงพอ เพราะมีเด็กที่เข้าเกณฑ์จะได้รับเพียง 1.4 ล้านคน จากทั้งหมด 4.2 ล้าน

เครือข่ายฯ จึงยืนยันข้อเสนอที่มีมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 คือ "ขอให้รัฐบาลอุดหนุนด็กเล็กแบบถ้วนหน้า อย่างน้อย 6 ปี" ซึ่งจะเป็นสวัสดิการที่จะทำให้ความช่วยเหลือไปถึงเด็กเล็กอย่างทันที เพียงพอ และครอบคลุม และในสถานการณ์ โควิด-​19 ควรเพิ่มเงินอุดหนุนเป็น 2,000 บาทต่อเดือนต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน หรือจนกว่าสถานการณ์จะทุเลาลง เพราะรายได้ครอบครัวเด็กลดลงอย่างมาก จากการที่ไม่สามารถทำงานแบบปกติได้ในทุกอาชีพ รวมทั้งศูนย์เลี้ยงเด็กและโรงเรียนปิด ทำให้มีค่าใช้จ่ายเด็กเล็กในบ้านเพิ่มขึ้นต้องหาคนมาช่วยเลี้ยงดูเด็ก หากผู้ปกครองได้ไปทำงาน

นางมุกดา ระบุว่า กมธ.เด็ก มาจากหลายพรรค แต่มั่นใจจิตสำนึก ส.ส.ทุกคนที่เห็นร่วมกันว่า เด็กแรกเกิด-6 ขวบ ต้องได้รับการพัฒนาทั้ง IQ และ EQ ซึ่งระบบของไทยยังบกพร่องอยู่ และเชื่อว่า ส.ส.ทุกคนอยากเห็นการให้เงินอุดหนุนเด็กเป็นระบบทั่วหน้า เหมือนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ บัตรทอง โดยไม่ต้องมีการคัดกรอง ซึ่ง ส.ส. ทุกคนคงจะมองถึงอนาคตและเห็นความสำคัญกับเด็กที่จะโตมาดูแลประเทศชาติแทนผู้ใหญ่

นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองประธาน กมธ.เด็ก กล่าวว่า กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กับกระทรวงมหาดไทย จะต้องเร่งสำรวจเด็กที่ตกหล่นไม่ได้รับความช่วยเหลือ โดยในฐานะ ส.ส.และพรรคก้าวไกลสนับสนุนแนวทางให้เงินอุดหนุนเด็กถ้วนหน้าตามที่เคยหาเสียงไว้ ซึ่งในการเปิดประชุมสภารอบนี้จะมีการอภิปราย พ.ร.ก.เงินกู้ ของรัฐบาล ที่จะไม่ใช้เยียวยาเศรษฐกิจ ซึ่งตนรับปากว่า จะผลักดันให้มีการปรับเงื่อนไข การใช้เงิน เพื่อมาดำเนินการด้านสังคมเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย