ไม่พบผลการค้นหา
ส.ป.ก.แถลง 'ปารีณา' ต้องคืนพื้นที่ฟาร์มไก่ทั้งหมด 682 ไร่ให้รัฐภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันได้รับหนังสือ ย้ำคืนช้าเกินกำหนดจ่อรับโทษอาญา แจงเตรียมส่งหนังสือให้เจ้าตัวใน 3 วัน

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. พร้อมด้วย รองเลขาฯ, สำนักกฎหมาย, ผู้อำนวยการ ส.ป.ก. และ ส.ป.ก.จังหวัดราชบุรี แถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีการครอบครองที่ดินฟาร์มไก่ "เขาสนฟาร์ม" ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ จำนวน 682 ไร่ ใน ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี 

นายวิณะโรจน์ ระบุว่า หลังการลงพื้นที่รังวัด ยืนยันได้ว่า พื้นที่ฟาร์มไก่ของ น.ส.ปารีณา เป็นพื้นที่ของ ส.ป.ก.รวมทั้งสิ้น 682 ไร่ แบ่งเป็นหลายแปลงและพื้นที่ตั้งฟาร์ม พบข้อมูลจดทะเบียนนิติบุคคล บริษัท ปรีณา ไกรคุปต์ จำกัด ซึ่ง น.ส.ปารีณา เป็นกรรมการ รวมทั้งลงชื่อผูกพันบริษัทและสถานะของบริษัทฯ ยังคงดำเนินกิจการอยู่

ดังนั้น ในส่วนที่ น.ส.ปารีณา ขอเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2562 ต่อ ส.ป.ก.ราชบุรีนั้น ทาง ส.ป.ก.ตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลแล้ว น.ส.ปารีณา มีสถานะเป็น ส.ส.และกรรมการบริษัทดังกล่าว จึงไม่ใช่เกษตรกรผู้มีสิทธิจะได้รับการจัดสรรที่จาก ส.ป.ก.

นายวิณะโรจน์ ยืนยันว่า ภายใน 2-3 วันจะส่งหนังสือให้ น.ส.ปารีณาส่งคืนพื้นที่ภายใน 7 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือ เพื่อส่งให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. นำที่ดินไปจัดตามระเบียบของ คทช.กระจายสิทธิให้กับผู้ยากไร้เข้าทำกิน ทำการจัดสรรให้เกษตรกรใช้ประโยชน์

หาก น.ส.ปารีณา ไม่ส่งที่ดินคืนพร้อมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปตามกำหนด ก็จะใช้มาตรา 44 คำสั่ง คสช.ที่ 36/2559 ว่าด้วย มาตรการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยมิชอบด้วยกฎหมายมาบังคับใช้ ซึ่งจะให้ อำนาจ ส.ป.ก. ในการยึดพื้นที่และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างได้เลย 

สำหรับที่ดินซึ่ง น.ส.ปารีณา ถือครองทำประโยชน์ เนื้อที่ 682 ไร่ เข้าครอบครองเมื่อประมาณปี 2548-2549 โดยได้รับมาจากบิดา ดังนี้

- แปลง No. 73 เนื้อที่ 417 ไร่ ใช้ประโยชน์ในการทำโรงเลี้ยงไก่

- แปลง N๐.75 เนื้อที่ประมาณ 190 ไร่ ใช้ประโยชน์ในการเลี้ยงวัว ปลูกหญ้าเลี้ยงวัว

- แปลง CL.424 เนื้อที่ประมาณ 48 ไร่ ใช้ประโยชน์ในการเลี้ยงวัว ปลูกหญ้าเลี้ยงวัว

- แปลง No.74 เนื้อที่ประมาณ 27 ไร่ ใช้วางมูลไก่

นายวิณะโรจน์ กล่าวระหว่างตอบคำถามสื่อมวลชนว่า หาก น.ส.ปารีณา คืนที่ดินตามกำหนดก็จะไม่ถูกดำเนินคดีอาญา เช่นเดียวกับบุคคลอื่นๆ ที่ไม่มีคุณสมบัติในการใช้ประโยชน์ที่ ส.ป.ก. และในส่วนที่ดินของกรมป่าไม้ทาง ส.ป.ก.ไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมาย ไม่สามารถดำเนินคดีอาญาในส่วนนี้ได้ แต่ได้พูดคุยกับทางกรมป่าไม้แล้ว ว่าอาจจะแต่งตั้งให้ ส.ป.ก. เป็นเจ้าพนักงานในกฎหมายป่าไม้ เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ได้ด้วย

ทั้งนี้ ช่วงที่ ส.ป.ก.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในยุครัฐบาล คสช.นั้น ไม่ได้ดำเนินการกับที่ดินที่ น.ส.ปารีณาถือครอง เพราะมีแปลงขั้นกลาง ไม่ได้รวมเป็นแปลงเดียวขนาดใหญ่เกิน 500 ไร่ตามเงื่อนไขที่กำหนด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง