ไม่พบผลการค้นหา
เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ย้ำนายกฯ นำ ครม.รับพระราชดำรัส ไม่เป็นการถวายสัตย์ฯใหม่ แต่เป็นการนำหลักชัยมาปฏิบัติหน้าที่ ชี้ ยังต้องรอองค์กรตามรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ยืนยันอภิปรายญัตติในสภายังเดินหน้าต่อ

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ บอกถึงกรณีประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญานตนไม่ครบถ้วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ว่า แม้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จะนำคณะรัฐมนตรี เข้ารับพระราชดำรัส พร้อมลายพระราชหัตถ์ ในโอกาสที่คณะรัฐมนตรี เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ นั้นไม่ได้เป็นการถวายสัตย์ปฏิญานใหม่ แต่เป็นการนำหลักชัย มาเป็นหลักยึดมั่นสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งตามกฎหมายหากถวายสัตย์ปฏิญาณจบแล้ว โดยทั่วไปพระมหากษัตริย์จะทรงมีพระราชดำรัสเพื่อจะให้กำลังใจอำนวยพรให้กับรัฐมนตรีในการปฎิบัติหน้าที่ของฝ่ายบริหาร แต่ไม่ได้เกี่ยวว่าจะทำให้การถวายสัตย์ฯสมบูรณ์

ทั้งนี้ จึงต้องมาดูว่าการถวายสัตย์ฯ ในวันที่ 16 ก.ค. ครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งจนถึงขณะนี้พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่เคยออกมายืนยันว่าตนเองพูดครบถ้วนทุกคำตามรัฐธรรมนูญที่ มาตรา 161 และผู้ตรวจการแผ่นดินล่าสุด ก็มีมติ ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความว่าการถวายสัตย์ปฏิญาณตน ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ผู้ตรวจการแผ่นดินก็ยังไม่ได้ชี้ชัดว่า การถวายสัตย์ฯของพลเอกประยุทธ์ครบหรือไม่ครบถ้วน และชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ และยังมีอีกหลายคำร้องที่อยู่ในองค์กรการตรวจสอบต่างๆ รวมถึงสภามีญัตติที่จะอภิปรายเป็นการทั่วไปซึ่งรอบรรจุเป็นระเบียบวาระด้วย ดังนั้นยังไม่มีองค์กรตามรัฐธรรมนูญยืนยันชัดเจนว่าการถวายสัตย์สมบูรณ์หรือไม่ ซึ่งก็ยังคงต้องรอดูว่าจะมีผลการวินิจฉัยจากองค์กรออกมาจะจบอย่างไร

นายปิยบุตร บอกด้วยว่า การอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 นั้นยังไม่ได้หารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่ยืนยันว่า ประเด็นการถวายสัตย์ฯ ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เป็นการใช้อำนาจของ ส.ส. หาทางออกและแก้ไขปัญหาร่วมกับนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ว่ามติ คณะรัฐมนตรีที่ออกมาแล้วนั้นจะทำอย่างไร ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และจะแก้ปัญหาปากท้องอย่างไร พร้อมยืนยันย้ำว่า ไม่ได้ต้องการล้มรัฐบาลแต่เป็นการหาช่องทางออกร่วมกัน เพื่อให้มติ ครม. มีผลที่สมบูรณ์เป็นการไม่ให้นำไปสู่การถูกร้องในอนาคต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง