ไม่พบผลการค้นหา
"ศักดิ์สยาม" ย้ำนโยบาย ติด "จีพีเอส" ในรถยนต์ส่วนบุคคล-รถจักรยานยนต์ เป็นภาคสมัครใจ พร้อมสั่งกรมขนส่งฯ ศึกษารายละเอียดรอบคอบก่อนใช้ ยืนยันโครงการไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล-ราคาไม่แพง และได้ประโยชน์เรื่องความปลอดภัย ป้องกันอาชญากรรม

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงนโยบายที่จะกำหนดให้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลติดตั้งเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ (จีพีเอส) ว่า ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ไปศึกษาเพิ่มเติมถึงนโยบายการติดจีพีเอสในรถยนต์ส่วนบุคคล หลังในเบื้องต้น พบว่า สามารถนำข้อมูลมาใช้ในด้านความปลอดภัย และการป้องกันการโจรกรรมด้วย 

นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้ ขบ.ไปพิจารณาว่า อุปกรณ์จีพีเอสในปัจจุบันที่มีราคาถูก รวมถึงรถยนต์ส่วนบุคคลที่มีระบบจีพีเอสอยู่แล้วนั้น หากต้องการเชื่อมข้อมูลของ ขบ. โดยมีการกำหนดรหัสผู้ใช้งาน และรหัสผ่าน สามารถดำเนินการได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการนโยบายดังกล่าวนั้น ถือเป็นการนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และไม่ได้มีการบังคับ แต่ในเบื้องต้นจะเริ่มจากภาคสมัครใจ ทั้งนี้ ยืนยันว่าข้อมูลจีพีเอสนั้น ไม่ใช่ข้อมูลสาธารณะที่เปิดเผยทั่วไป และไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลด้วย

สำหรับประโยชน์ของผู้ที่ติดตั้งระบบจีพีเอสบนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ตอนนี้ระบบไปถึงขั้นที่จะช่วยลดอุบัติเหตุได้ เพราะถ้าจีพีเอสเชื่อมต่อกันได้ สามารถเว้นระยะห่างของรถได้เลย รวมไปถึงขั้นไม่สามารถสตาร์ทรถได้ ถ้าไม่ได้ขับรถ ซึ่งจริงๆ แล้วมีอยู่ในรถรุ่นใหม่ในตอนนี้ และหากรถที่ยังไม่มีและจะติดตั้ง โดยเรากำลังดูถึงเทคโนโลยีที่มีราคาต่ำหรือมีราคาหลักร้อย ซึ่งทำแบบนี้ได้ด้วย เพียงแค่นำอุปกรณ์มาเชื่อมกับซอฟต์แวร์ที่เราพัฒนาขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมกับสัญญาณจราจรได้ด้วย ยืนยันว่าในเรื่องของค่าใช้จ่ายนั้น มีราคาถูกมาก

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า การติดจีพีเอสในขณะนี้ มี 2 รูปแบบ กล่าวคือ 1.ในส่วนที่ไม่มีค่าบริการรายเดือนนั้น ขบ.จะต้องติดต่อไปยังผู้ใช้บริการ ซึ่งจะไม่มีการรายงานในทันที (Real Time) ขณะเดียวกัน หากต้องการใช้ข้อมูลหรือการรายในทันทีนั้น จะต้องใช้สัญญาณจากโทรศัพท์มือถือ โดยตอนนี้ อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับภาคโทรคมนาคม สอดคล้องกับสหภาพยุโรป (EU) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ได้ดำเนินการแล้ว 

ส่วนข้อกังวลของประชาชน ทั้งการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ค่าใช้จ่ายที่อาจจะเพิ่มขึ้น และการใช้ประโยชน์นั้น ในปัจุบันยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษา โดยยืนยันว่าจะดำเนินการเพื่อความปลอดภัย ทั้งยังไม่กระทบกับประชาชน และเป็นภาคสมัครใจ 

นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ ขบ. ไปหารือร่วมกับกรมการประกันภัย กระทรวงพาณิชย์ เพื่อร่วมมือกับบริษัทประกันต่างๆ ด้วย