ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี ขอบคุณสื่อแสดงความเสียใจบิดาเสียชีวิต ขอช่วยกันประหยัดน้ำ บอกทุกคนจะมีความสุขเมื่อประเทศสงบ ร้องเพลงแม่พิมพ์ของชาติ บอกมารดาและภริยาเป็นครู ทำให้ต้องอยู่ในระเบียบวินัย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีตามปกติ โดยได้ขอบคุณสื่อมวลชน ที่แสดงความเสียใจเรื่อง พ.อ.ประพัฒน์ จันทร์โอชา บิดาเสียชีวิต ซึ่งจะมีพิธีรดน้ำศพ ในเวลา 15.30 น. พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ในเวลา 17.00 น. และสวดพระอภิธรรม ในเวลา 18.00 น.โดยมี ครม. เป็นเจ้าภาพในคืนแรก ทั้งนี้ จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมทั้งหมดเป็นเวลา 7 วัน

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้รณรงค์ ให้คนไทยร่วมใจประหยัดน้ำ แล้งนี้เราต้องรอด ของการประปานครหลวง ซึ่งขอให้ทุกคน ช่วยกันประหยัดน้ำ โดยปิดน้ำระหว่างแปรงฟัน 1 นาที หากช่วยกันทำทุกวันจะช่วยประหยัดน้ำได้คนละ 9 ลิตรต่อวัน โดย กทม. มี 10 ล้านคน จะช่วยให้ประหยัดน้ำได้ 90 ล้านลิตรต่อปี ขณะเดียวกันต้องช่วยกันใช้ผลิตภัณฑ์ลดโลกร้อนที่ใช้ซ้ำ เช่น กระบอกน้ำ ถุงผ้า 

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังขอให้นำเทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการทำเกษตรเพื่อลดต้นทุนปลูกพืชใช้น้ำน้อยตามความต้องการของตลาด ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ประชาสัมพันธ์งานมะขามหวาน จ.เพชรบูรณ์ ที่ภาคเอกชนและจังหวัดจัดขึ้น สามารถสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์มะขามแปรรูปทั้งขายสดและแปรรูป ส่งออก 2,300 ล้านตันต่อปี ซึ่งในบูธนี้ได้ มีการถือป้ายให้กำลังใจและพูดว่า "มะขามหวานคู่เมืองเพชรบูรณ์ ประเทศสงบสุขสมบูรณ์เพราะลุงตู่" ที่สร้างความพอใจให้นายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวว่า ทุกคนจะมีความสุขเมื่อประเทศสงบและมีเวลาที่จะคิด เมื่อรัฐบาลทำอะไรก็จะมาร่วมมือกันได้ แต่ถ้าความสุขและความสงบสุข เกิดขึ้นไม่ได้ ก็จะสมบูรณ์ไม่ได้ ประเทศไม่ได้ขัดแย้งกับใคร ไม่ได้มีปัญหากับต่างประเทศ เหมือนกับหลายประเทศ เหลือแต่ปัญหาภายใน ถ้าแก้ได้เราก็จะเข้มแข็ง จากวิกฤตให้เป็นโอกาสด้วยสติปัญญา มากกว่าการขัดแย้งและทะเลาะกัน

จากนั้นกระทรวงศึกษาธิการ ได้นำคณะผู้บริหาร มอบดอกกล้วยไม้ ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำวันครู ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 16 ม.ค. ของทุกปี โดยนายกรัฐมนตรี ได้ร้องเพลง แม่พิมพ์ของชาติ พร้อมบอกว่า มารดา และภริยา เป็นครู ทำให้ตนเองต้องอยู่ในระเบียบวินัย เพราะครูคนแรกของเด็กคือ พ่อแม่และต่อมาจึงเป็นครู ดังนั้นหากเด็กและครูร่วมมือกันพัฒนาการเรียน การสอน ให้มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่ท่องจำเพียงอย่างเดียว เพราะวันหน้าเราต้องโตไม่ใช่จะเป็นลูกจ้างตลอดไป 

ส่วนคนที่ออกจากระบบการศึกษารัฐบาลก็ส่งเสริมให้เรียน กศน.และฝากให้ผู้ประกอบการทำงานโรงงานช่วยดูแลแรงงานให้ได้เรียนเพื่อพัฒนาทักษะ เหมือนกับค่ายทหารที่ตั้งศูนย์ กศน. ขึ้นมาเพื่อให้ทหารกองประจำการได้เรียนเพิ่มเติม เพื่อยกระดับความรู้และการทำงาน แต่สิ่งสำคัญจะต้องคิดให้เป็น อะไรที่ดีต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกันไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะแย่ไปหมด ทำให้ไม่มีกำลังใจที่จะทำ

พร้อมบอกเด็กที่อยากเป็นทหารว่าต้องฝึกร่างกายให้แข็งแรง ไม่ใช่ว่าใครจะเป็นก็ได้เพราะทหารต้องไปรบเจอทั้งกระสุนปืนใหญ่และปืนเล็ก ซึ่งตนเจอมาหมดแล้วถึงเวลานั้นจึงจะรู้ และจะเป็นทหารได้หรือไม่ได้กล้าไปรบหรือไม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรี อุทาน "เฮ้ย" แล้วถอนหายใจ และถามเด็กว่าอยากเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แต่เด็กบอกว่าไม่อยากเป็นเพราะงานเยอะ ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องสู้ ไม่เคยท้อแท้ ต้องทำเพื่อคนอื่น แล้วจะได้กับตัวเอง คือ ความภาคภูมิใจ ทุกคนรู้ว่าอะไรดีไม่ดีถูกไม่ถูกอะไรทำเพื่อส่วนรวม และอะไรทำเพื่อส่วนตัวของให้แยกกันไม่ออก ไม่เช่นนั้นก็จะมั่วกันอยู่แบบนี้

ส่วนการประชุม ครม. ในวันนี้ จะมีการตั้งศูนย์บัญชาการน้ำเฉพาะกิจและแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำตาม พ.ร.บ.น้ำแห่งชาติ พร้อมขอความร่วมมืองดปลูกข้าวนาปรัง ขณะเดียวกันจะเพิ่มอัตราเบี้ยคนพิการจาก 800 เป็น 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน ใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นปีละ 4,800 บาทล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง