ไม่พบผลการค้นหา
ศาลสั่งยุติการดำเนินคดี และจำหน่ายคดี 'สฤณี' ออกจากสารบบ หลังลงบทความขอโทษ กรณีเผยแพร่บทความในกรุงเทพธุรกิจ

จากกรณีบทความ ของ น.ส.สฤณี อาชาวนันทกุล เรื่อง “อันตรายของภาวะ “นิติศาสตร์นิยมล้นเกิน” (อีกที) กรณีหุ้นสื่อของผู้สมัคร ส.ส.” เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2562 ซึ่งเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งที่มีคำสั่งตัดสิทธิผู้สมัคร ส.ส. ปมถือหุ้นสื่อ หลังจากนั้น สุประดิษฐ์ จีนเสวก เลขานุการแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกาคือ ผู้กล่าวหาในกรณีนี้ได้ทำหนังสือบันทึกข้อความ ลงวันที่ 16 ส.ค. 2562 ถึงประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา เพื่อชี้ให้เห็นว่าบทความดังกล่าวของ น.ส.สฤณี มีลักษณะที่เป็นการพาดพิงแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา โดยในบันทึกข้อความ สุประดิษฐ์ ได้ยกเอาความหมายของคำว่า “มักง่าย” และ “ตะพึดตะพือ” ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 มาประกอบการให้เหตุผลด้วย และในบันทึกข้อความได้ระบุถึง ยุทธนา นวลจรัส บรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจว่าเป็นผู้ร่วมกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ด้วย ส่วนกรณีของ น.ส.สฤณี นั้นเห็นว่า เข้าข่ายความผิดฐานละเมิดกอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 32 (2)

22 ต.ค. 2562 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลฎีกามีคำสั่งยุติดำเนินคดีกับ น.ส.สฤณีกรณีถูกกล่าวหาว่าละเมิดอำนาจศาลจากกรณีดังกล่าวแล้ว ศาลเห็นว่าทั้งเจ้าตัวและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจได้เผยแพร่บทความขอโทษที่ใช้คำไม่เหมาะสมแล้วและเป็นที่พอใจของฝ่ายผู้กล่าวหา

ซึ่งก่อนหน้านี้ ทั้งสองได้ตีพิมพ์บทความเพื่อชี้แจงและแสดงความขอโทษต่อการเลือกใช้คำที่ไม่เหมาะสมในการวิพากษ์วิจารณ์ศาลฎีกา ซึ่งทั้งสองได้ตกลงเรื่องข้อชี้แจงดังกล่าวแล้วกับทางโจทก์ นายสุประดิษฐ์ จีนเสวก อดีตเลขานุการแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกาในนัดพร้อมเมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา โดย น.ส.สฤณี จำเลยที่หนึ่ง ได้ลงบทความในสื่อของกรุงเทพธุรกิจทั้ง 2 ทาง โดยได้โพสต์บนสื่อออนไลน์เป็นเวลาติดต่อกัน 7 วัน และลงในฉบับตีพิมพ์เป็นเวลาติดต่อกัน 3 วัน

เมื่อตรวจพบว่า ได้มีการตีพิมพ์ตามที่ระยะเวลาที่ตกลงไว้ ทางผู้กล่าวหาจึงขอให้ศาลทำการพิจารณาพร้อมกับยื่นหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจจำนวน 4 ฉบับ ไว้เพื่อเป็นหลักฐานในสำนวน หลังจากที่ได้รับสำนวนไว้ ศาลได้มีคำสั่งหลังได้พิจารณาแล้ว โดยเห็นว่าทางจำเลยทั้งสองรู้สึกสำนึกผิดแล้วในการใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม และได้ทำการเผยแพร่บทความชี้แจงเพื่อแสดงความขอโทษผ่านทางสื่อทั้งสองช่องทางของกรุงเทพธุรกิจจนเป็นที่พอใจของทางผู้กล่าวหา จึงไม่สมควรที่จะต้องดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีนี้ต่อ จึงมีคำสั่งให้ยุติการดำเนินคดี และจำหน่ายคดีนี้ออกจากสารบบความ