ไม่พบผลการค้นหา
อธิบดีกรมควบคุมโรค เผย 'โรคคอบวมในสัตว์' ยังไม่เคยมีรายงานติดต่อสู่คน แนะหมั่นสังเกตอาการของสัตว์ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ป่วย

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานการระบาดของโรคเฮโมรายิกเซพติกซีเมีย (hemorrhagic septicemia) หรือโรคคอบวม ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยนั้น โรคนี้มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย Pasteurella multocida ซึ่งก่อโรคในโคและกระบือ จากรายงานในครั้งนี้เป็นการระบาดในฝูงกระบือของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดขอนแก่น ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ พร้อมทั้งประกาศให้พื้นที่เกิดโรคดังกล่าวเป็นเขตควบคุมโรคระบาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลว่า โรคเฮโมรายิกเซพติกซีเมีย ที่พบการระบาดในสัตว์เกิดจากเชื้อ Pasteurella multocida ซีโรไทป์ (serotype) หรือชนิด B:2 หรือ E:2 ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีรายงานว่าเชื้อทั้งสองซีโรไทป์นี้เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยในมนุษย์ อีกทั้งการเจ็บป่วยในมนุษย์ที่มีสาเหตุมาจากเชื้อ Pasteurella multocida ไม่มีความสัมพันธ์กับการระบาดของโรคเฮโมรายิกเซพติกซีเมียในสัตว์แต่อย่างใด

ถึงแม้ปัจจุบันยังไม่มีการติดต่อของโรคเฮโมรายิกเซพติกซีเมียระหว่างสัตว์สู่คน แต่เชื้อ Pasteurella multocida ชนิดอื่นพบว่า เป็นเชื้อฉวยโอกาสและสามารถก่อให้เกิดความเจ็บป่วยในมนุษย์ได้ ก่อให้เกิดการอักเสบในบริเวณที่ได้รับเชื้อดังกล่าว โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องจะก่อให้เกิดโรคที่รุนแรงได้ 

อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมโรคมีความห่วงใยประชาชน จึงขอให้ประชาชนผู้มีอาชีพเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ และบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับสัตว์ไม่ว่าจะเป็นโค กระบือ หรือสัตว์ชนิดอื่นๆ ขอให้หมั่นสังเกตอาการของสัตว์และความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตนเอง รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล มีการป้องกันตนเองและรักษาความสะอาดอยู่เสมอเมื่อจำเป็นต้องสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์มีชีวิตหรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ป่วย เพื่อเป็นการป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคต่างๆ

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคของประเทศไทย ที่มีความเข้มแข็งและดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมากรมควบคุมโรค มีมาตรการในการเฝ้าระวังและควบคุมโรคอุบัติใหม่และอุบัติซ้ำ โดยใช้แนวคิดสุขภาพหนึ่งเดียว หรือ One Health ซึ่งเป็นการร่วมมือและประสานการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคสุขภาพคนโดยกรมควบคุมโรค ภาคสุขภาพสัตว์โดยกรมปศุสัตว์ และภาคสุขภาพสัตว์ป่าโดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยเน้นการเฝ้าระวังโรคเข้มแข็ง ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422