ไม่พบผลการค้นหา
ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำบนเวที COP26 คืนที่ 2 ว่าวิกฤตโลกร้อนคือประเด็นใหญ่ของโลก แต่จีน “กลับเดินหนี” ขณะที่ “รัสเซียก็ทำตัวไม่ต่างกัน” ทั้งที่จีนและรัสเซียปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงเป็นอันดับ 1 และ 5 ของโลก

ในบรรดาผู้นำโลกจากมากกว่า 120 ชาติที่เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ 'COP26' ที่เมืองกลาสโกลว์ของสกอตแลนด์ ‘สีจิ้นผิง’ ประธานาธิบดีจีน และ ‘วลาดิเมียร์ ปูติน’ ประธานาธิบดีรัสเซีย ตัดสินใจไม่เดินทางเข้าร่วม โดยทั้งสองชาติส่งผู้แทนของรัฐบาลเข้าประชุมแทน ซึ่งการประชุมจัดขึ้นเป็นระยะเวลาราว 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1-14 พ.ย.

ปัจจุบัน จีนคือประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงที่สุดในโลก คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 27% โดยปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างเดียวมากถึง 11,535 เมกะตันต่อปี รองลงมาคือสหรัฐฯ (5,107 เมกะตันต่อปี) สหภาพยุโรป (3,304 เมกะตันต่อปี)  อินเดีย (2,597 เมกะตันต่อปี) ส่วนรัสเซียอยู่ในอันดับที่ 5 (1,792 เมกะตันต่อปี) 

ก่อนการขึ้นกล่าวปาฐกถาของไบเดน ปูตินได้กล่าวผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ก่อนการเริ่มประชุม COP26 วันที่สองเกี่ยวกับประเด็นการจัดกาปัญหาตัดไม้ทำลายป่าในรัสเซียว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังใช้มาตรการขั้นสูงสุดในการรักษาผืนป่าเอาไว้

เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถูกถามคำถามเกี่ยวกับบทบาทของบรรดาผู้นำโลกไม่ว่าจะเป็นจีน รัสเซีย และซาอุดีอาระเบียที่มีต่อการประชุมเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติโลกร้อนในครั้งนี้ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่าการไม่ปรากฏตัวในงานสำคัญนี้ของสีจิ้นผิงถือว่าเป็น "ความผิดพลาดครั้งใหญ่" โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประธานาธิบดีจีนมีความพยายามอย่างมากที่จะยืนยันการเป็นผู้นำโลกของจีน

ในเดือน ต.ค.ของปีผ่านมา เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีนได้ส่งสัญญาณมายังเจ้าภาพอย่างสหราชอาณาจักรว่าประธานาธิบดีของจีนจะไม่เข้าร่วมการประชุมโดยไม่มีเหตุผลแน่ชัด ซึ่งผู้นำของจีนยังไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเมื่อเดือน ก.ย.ของปีนี้ สีจิ้นผิงประกาศต่อสาธารณะว่าจีนตั้งเป้าที่จะบรรลุเป้าหมาย 'ความเป็นกลางทางคาร์บอน' ให้ได้ภายในปี 2060 และเตรียมหยุดการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในต่างประเทศ

ขณะเดียวกัน โจ ไบเดน ได้กล่าวโจมตีในลักษณะเดียวกันไปยัง วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่ไม่เดินทางเข้าร่วมการประชุม COP26 โดยโฆษกของประธานาธิบดีรัสเซียไม่เคยเปิดเผยเหตุผลของการไม่เข้าร่วมการประชุมครั้งสำคัญนี้ของผู้นำประเทศ แม้ว่าที่ผ่านมาปูตินจะย้ำเสมอว่าปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกคือเรื่องที่สำคัญอันดับแรกๆ ของรัสเซีย

ในการกล่าวปาฐกถาที่งานประชุมด้านพลังงานระดับนานาชาติของปูตินในวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ปูตินย้ำว่ารัสเซียมีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนไม่เกินปี 2060 อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ COP26 คืองานประชุมระดับสุดยอดผู้นำเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาวิกฤติโลกร้อน โดย COP ย่อมาจาก Conference of Parties และ 26 คือการจัดการประชุมครั้งที่ 26 ในปีนี้ บรรดาผู้นำประเทศจากเกือบ 200 ประเทศที่ได้รับเชิญเพื่อเข้าร่วมการประชุมในเมืองกลาสโกว์ของสกอตแลนด์ถูกเรียกร้องให้ประกาศแผนการที่ชัดเจนในการลดการปล่อยก๊าซเรียนกระจกภายในปี 2030 เนื่องจากในขณะนี้สภาพพูมิอากาศโลกเข้าสู่จุดที่แทบจะสายเกินแก้ 

ในทศวรรษที่ผ่านมาโลกร้อนขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เป้าหมายสำคัญที่เป็นฉันทามติจากประเทศสมาชิกความตกลงปารีสเมื่อปี 2015 ระบุว่า เราจะต้องควบคุมอุณหภูมิของโลกให้สูงขึ้นเพียงแค่ 1.5 องศาเซลเซียส และไม่เกิน 2 องศาเซลเซียสเท่านั้น เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิโลกก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม

การเดินทางมาร่วมประชุมของผู้นำโลกมากกว่า 120 ชาติในครั้งนี้พวกเขาจำเป็นจะต้องประกาศคำมั่นสัญญาและวิธีการดำเนินงานเพื่อที่จะลดการปล่อยก๊าซเรียนกระจกอยากเป็นรูปธรรม ฉะนั้นการตัดสินใจใดๆ ที่เกิดขึ้นในการประชุม COP26 อาจเปลี่ยนอนาคตของคนทั้งโลกได้ หากทำได้สำเร็จ