ไม่พบผลการค้นหา
ภาคีเครือข่ายร่วมสนับสนุนการวิจัย นำสารสกัดกัญชาสูตรของนายเดชา มาใช้ทางการแพทย์อย่างถูกกฎหมาย โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มทดลองให้ยากับคนไข้เดิมล็อตแรกในเดือน พ.ค. นี้

เครือข่ายนักวิจัยกัญชา ทั้งภาครัฐและเอกชน กว่า 10 องค์กร ประชุมหารือประเด็นการวิจัยและสนับสนุนการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ รวมถึงแนวทางปฏิบัติของหมอพื้นบ้าน เพื่อให้เข้าใจสิทธิการครอบครองและผลิตกัญชาแบบถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมเชิญ นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ หนึ่งในบุคคลที่ขับเคลื่อนการพัฒนายากัญชาในการรักษาผู้ป่วย และการแจกจ่ายสารสกัด ซึ่งจะถูกเสนอให้เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยของเครือข่ายวิจัยดังกล่าว รวมถึงสถาบันการศึกษาจะได้ประโยชน์จากข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการรักษา ขอบเขตของโรคที่กัญชาสามารถเยียวยา หรือฟื้นฟูข้อมูลเกี่ยวกับยากัญชาสายพันธุ์ไทย

โดยนางรุ่งเพ็ชร สกุลบำรุงศิลป์ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า ระยะสั้นที่จะเริ่มงานทันที คือ ให้ผู้ป่วยได้รับยาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเมื่อหลังกำหนดนิรโทษกรรมในวันที่ 19 พ.ค. นี้ พร้อมติดตามผลการใช้น้ำมันกัญชา และพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ด้านกัญชาจากการวิจัยของนายเดชา ซึ่งกรุณามอบให้เป็นประโยชน์ของสาธารณะ 

นางรุ่งเพ็ชร กล่าวว่า กรอบงานวิจัยดังกล่าว ในสิ้นเดือน เม.ย. นี้จะเสนอรายละเอียดให้ อย.อนุมัติงานวิจัย จากนั้นกลางเดือน พ.ค. จะยื่นรายละเอียดงานวิจัยกัญชาทางการแพทย์ในมนุษย์ พร้อมกับเสนอตำรับยากัญชานายเดชา ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาเป็นภูมิปัญญาดั่งเดิม ขณะที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นจะเป็นทีมวิจัยร่วม เน้นการติดตามการใช้น้ำมันกัญชา ส่วนมหาวิทยาลัยรังสิต จะสนับสนุนการดูแลผลิตภัณฑ์และควบคุมคุณภาพให้ปลอดภัยต่อผู้ป่วย ส่วนงบประมาณทั้งหมดมาจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย 

ด้าน นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ ระบุว่า ความตั้งใจหลัก คือ อยากให้ผู้ป่วยกลุ่มเดิม 5,000 คน ได้รับยาให้เร็วที่สุด หลังจากหยุดจ่ายตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา รวมถึงผู้ป่วยใหม่ที่มารอรับยา ซึ่งขณะนี้ไม่ว่าภาครัฐจะต้องให้ตนผ่านกระบวนการใดก็ตามทางกฎหมาย ตนก็พร้อมทำให้ถูกต้องเต็มที่ให้เร็วที่สุด เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยาในการรักษา ส่วนความตั้งใจในระยะยาว จะดำเนินการขับเคลื่อนเรื่องแก้ไขกฎหมายกัญชาทางการแพทย์ให้ครอบคลุมและไม่มีข้อจำกัดสำหรับผู้ป่วยต่อไป

นายเดชา ระบุอีกว่า หากให้ทันต่อการแจกจ่ายผู้ป่วยในเดือนหน้า จำเป็นต้องขอกัญชาของกลางจาก ป.ป.ส ที่ตรวจยึดมาจากตลาด จากนั้นตนต้องมาคัดเลือก และส่งตรวจว่ากัญชาของกลางมีสารโลหะหนักหรือไม่ จากนั้นตนถึงจะสามารถนำมาผลิตเป็นสารสกัดกัญชาทางการแพทย์เพื่อแจกจ่ายประชาชนได้ ซึ่งในส่วนของวัตถุดิบการวิจัย ป.ป.ส. แจ้งว่าสามารถทำหนังสือเพื่อขอนำของกลางที่ยึดไปมาคัดเลือกเฉพาะที่มีคุณภาพปลอดภัยนำกลับมาใช้ได้ โดยคาดว่าในเดือนหน้ากระบวนการต่างๆ จะเดินหน้าไปถึงขั้นการทดลองในมนุษย์ นั่นคือ ผู้ป่วยชุดเดิมของนายเดชา ซึ่งจะเป็นการแจกจ่ายควบคู่การวิจัยเก็บสถิติไปด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง