วันที่ 22 ก.พ. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็วจากพื้นที่ช่องยางแดงชะอม จังหวัดสระบุรี เข้ามายังเขตพื้นที่จังหวัดนครนายก ส่งผลให้แนวเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้รับความเสียหายนับร้อยไร่ และตอนนี้เพลิงได้แยกออกเป็นสองทาง โดยทางหนึ่งมุ่งไปยังพื้นที่โรงเรียนเตรียมทหาร และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า

ขณะที่ วันนี้ได้รับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากกองทัพมาช่วยภารกิจดับไฟป่า โดยมีหลายหน่วยงานร่วมบูรณาการ ซึ่งช่วงเช้าที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (รร.จปร), ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนเตรียมทหาร เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ป่าไม้ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครนายก และกองทัพได้ร่วมประชุมแนวทางในการดำเนินการดับไฟป่าที่กำลังลุกลามมายังพื้นที่จังหวัดนครนายก เข้ามาทางเขามะค่าทองและเขาตะแบก ซึ่งเป็นจุดใกล้พื้นที่โรงเรียนนายร้อย จปร. และโรงเรียนเตรียมทหาร มีควันไฟจากไฟป่าได้เริ่มเข้าปกคลุมพื้นที่โรงเรียน และบริเวณใกล้เคียง ทำให้เริ่มเกิดผลกระทบในพื้นที่โดยรอบ

นายอร่าม ทัพหิรัญ เจ้าพนักงานป่าไม้ เปิดเผยว่า ไฟป่าครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่ช่องยางแดง ตำบลชะอม จังหวัดสระบุรี กระทั่งไฟลุกลามเข้ามาในพื้นที่เขตจังหวัดนครนายกเมื่อวันที่ 19 ก.พ. โดยไฟป่าได้แยกออกเป็น 2 ทาง คือ ทางแรกลุกลามไปยังพื้นที่เขากลาง และเขาแก้ว หมู่ 12 ตำบลเขาพระ อำเภอเมืองนครนายก ซึ่งจุดนี้ไม่มีปัญหาเนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่พร้อมสถานีควบคุมไฟป่าเข้าควบคุมไว้แล้ว ส่วนทางที่สองลุกลามมายังบริเวณเขามะค่าทอง เขาตะแบก บริเวณโรงเรียนนายร้อย จปร. และโรงเรียนเตรียมทหาร

สำหรับสถานการณ์ขณะนี้ เนื่องจากสองวันที่ผ่านมากระแสลมค่อนข้างแรง ประกอบกับพื้นที่ที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นเขาสูงชัน ทางจังหวัดนครนายกจึงได้ประสานขอเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพมาช่วยปฏิบัติภารกิจดับไฟป่า

เบื้องต้น พื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้รับความเสียหายจากเหตุไฟป่าประมาณ 100 ไร่ ถือว่ายังไม่มากเท่าไหร่ เพราะพื้นที่ที่ไหม้นั้นเป็นบริเวณชายขอบอุทยานฯ ยังไม่ถึงใจกลางของอุทยานฯ

จากข้อมูลสำนักงาน ปภ.จังหวัดนครนายก ได้ระบุเมื่อวันที่ วันที่ 21 ก.พ. 2563 ไฟป่าบริเวณเขากลาง เขามะค่าทอง เขาแก้ว ได้ปะทุขึ้น ประกอบกับลมที่พัดแรงและมีทิศทางไม่แน่นอน ส่งผลให้ไฟป่าได้ขยายวงกว้าง จังหวัดนครนายก โดยการนำของนายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการการจังหวัดนครนายก ได้เข้าบัญชาเหตุการณ์ พร้อมด้วยนายอุดมเขต ราษฎร์นุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก พ.อ.สุรินทร์ ปรียานุภาพ รอง.ผอ.รมน.จว.นย. ได้มีการระดมสรรพกำลังและขอรับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ รถดับเพลิง รถบรรทุกน้ำ เข้าดับไฟป่าซึ่งกำลังลุกไหม้ และเนื่องจากบริเวณที่ไฟไหม้มีหลายจุดและเป็นวงกว้าง จึงต้องใช้กำลังพลเดินเท้าเข้าไปในพื้นที่เพื่อทำแนวกันไฟ แต่เนื่องจากกระแสลมที่แรง และบางจุดเป็นที่สูงชัน จึงทำให้การดับไฟและการทำแนวกันไฟเป็นด้วยความลำบาก จึงยังไม่สามารถเข้าควบคุมไฟซึ่งกำลังลุกไหม้อยู่ได้ และได้ถอนกำลังลงมาในเวลา 19.30 น.และเฝ้าระวังเตรียมความพร้อมอยู่ในพื้นที่