ไม่พบผลการค้นหา
“คนที่ลำบากกว่าเราก็มี โดนยกเลิกงานทำให้สูญเสียรายได้ แต่เราก็ยังโชคดีมีบ้านอยู่มีรถขับ ไม่มีรายได้เข้ามาก็ไม่เป็นไร ไม่มีหนี้สินล้นพ้นตัว ก็กินของเก่าที่พอมีอยู่บ้างไป เป็นเด็กบ้านนอกเมื่อก่อนไม่ได้อยู่ดีกินดีขนาดนี้ พ่อแม่มีให้กินแค่ไข่ต้มก็ยังโตมาได้”

จินตหรา พูนลาภ ศิลปินลูกทุ่ง หมอลำ แถวหน้า ที่มีทรงผมหน้าม้าเป็นเอกลักษณ์ เปิดใจกับ วอยซ์ ออนไลน์ ในวันที่โควิด-19 อาละวาด งานคอนเสิร์ต และอีเวนท์หายเกลี้ยง สูญเสียรายได้มหาศาล การมองโลกในแง่ดีสามารถช่วยบรรเทาทุกข์ได้ ในสถานการณ์แบบนี้ที่ไม่ว่าใครก็ได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน

“ก่อนโควิดมามีงานตลอดทั้งปี ไม่ได้ไปคอนเสิร์ตทุกวัน ก็ไปรายการโทรทัศน์ งานอีเวนท์ มีงาน 20 กว่าวันต่อเดือน ตอนนี้ไม่เฉพาะตัวเรา ทุกคนได้รับผลกระทบ”

นักร้องเจ้าของฉายา ‘สาวเสียงพิณ’ บอกว่า ระหว่างเก็บตัวอยู่บ้าน เห็นข่าวคนไร้บ้าน คนตกงาน เล่าถึงความยากลำบากในการดำเนินชีวิต บางคนข้าวจะกินยังไม่มี ต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อความอยู่รอด รู้สึกว่าตนเองโชคดี ที่มีบ้านอยู่ มีข้าวกิน มีเงินเก็บมีเงินใช้จ่ายไม่ขาดมือ ขอบคุณความยากจนที่ทำให้มีภูมิคุ้มกันในวันที่ต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก

“เติบโตมาจากบ้านนอก เป็นเด็กบ้านนอก ไม่มีเงินมาก่อน ไม่ได้อยู่ในเมืองอยู่ดีกินดี ในวันที่ไไม่มีรายได้เข้าก็ไปมองย้อนกลับไปสมัยก่อน  พ่อแม่ไม่มีอะไรให้กิน กินแต่ต้มไข่ ก็จนกว่านี้นี่หว่าก็ยังโตขึ้นมาได้ เป็นนักร้องมีบ้านอยู่ มีรถขี่ โชคดีแล้ว สมัยก่อนนั่งรถสองแถวไปตลาด วิ่งตามรถบัส มันจนกว่าทุกวันนี้มาก ถ้าเรามองถึงว่า ณ วันหนึ่งชีวิตคนเราต้องกลับไปอยู่แบบเดิมก็น่าจะรับมันได้นะ ไม่ได้แปลกอะไรมาก เพียงแค่ว่าเรามาเป็นนักร้องแล้วอาจจะชินกลับมันหลายปี แต่พอมันย้อนกลับไปแบบนั้นไม่มีรายได้เข้ามา นั่งๆ นอนๆ อยู่เฉยๆ ก็ไม่เป็นไร ก็อยู่ได้สบายนะถ้าเราเจียมตัวเจียมใจไม่ไปคิดอะไรมาก”

เจ้าของเสียงร้องเพลงเต่างอย บอกอีกว่า การจะอยู่อย่างมีความสุขนั้น มันเริ่มจากจิตใจของเราเอง วันใดที่ท้อหรือเหนื่อยล้า ให้มองคนที่ลำบาก อย่าคิดว่าเราแย่คนเดียวแย่ที่สุดในโลก พยายามสร้างกำลังใจขึ้นมา กับสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ที่กำลังเผชิญอยู่นี้ทุกคนต้องอดทน สักวันมันก็จะผ่านไป

“อย่าไปคิดว่าแย่คนเดียว บางทีเรานั่งรถออกไปข้างนอก เห็นคนใช้แรงงานนั่งรองานเป็นวันๆ รอว่าจะมีใครมาจ้างไหม วันนี้จะได้งานหรือเปล่า ย้อนกลับไปวันวาน เฮ้ยเมื่อก่อนเรานั่งรอจักรยานมารับไปยกน้ำปลา ตอนเป็นเด็กผ่านความจนมา คิดว่าอยู่ได้สบายไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องจะต้องรวยอะไรมากนะ ให้คิดถึงก่อนหน้านั้นน่ะ ตอนที่เราเป็นเด็กอยู่กับพ่อแม่จนๆ เวลาเห็นคนอื่นลำบากยังคิดเลยว่า ตอนนี้เราดีกว่าเขานะ ไม่น่าเชื่อเลยนะจะมานั่งรถ เขาก็นั่งอยู่ตรงพื้นรองานเมื่อไหร่จะมีคนมาเรียก”

จินตหรา พูนลาภ.jpg

จินตหรา พูนลาภ ถือว่าเป็นศิลปินที่ไม่เคยตกยุค 35 ปีในวงการเพลง มีผลงานเพลงได้รับความนิยมมากมาย ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2528 จนถึงปัจจุบัน พ.ศ.2563 อาทิ ถูกหลอกออกโรงเรียน, วานเพื่อนเขียนจดหมาย, พลังรัก, น้ำตาสาววาริน, แตงโมจินตหรา, รักสลาดอกฝ้ายบาน, เต่างอย เป็นต้น เธอได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในการร่วมงานกับ เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ ในเพลงแฟนจ๋า และมาทำไม ในปี พ.ศ.2547 ได้ร่วมแสดงบนเวทีเอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดส ที่ประเทศสิงคโปร์ กับ ธงไชย แมคอินไตย์, แคทรียา อิงลิช และนัท มีเรีย

ช่วงเก็บตัวหนีโควิด-19 เธอไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์กับอาชีพนักร้อง เสิร์ฟเพลงออกมาให้แฟนๆ ฟัง 2 เพลงติดต่อกันผ่านยูทูบ เพลงแรก ‘ธาตุแท้’ ฟีเจอริ่งกับ ‘ใบปอ-รัตติยา พลเสน’ ศิลปินเจ้าของฉายาราชินีรถแห่ ที่มีงานแสดงต่อเนื่องก่อนโควิด-19 อาละวาดมาร่วมแจม มีเนื้อหา สื่อถึงคู่รักที่คบกันมาเป็นเวลานาน กระทั่งฝ่ายหนึ่งเปิดเผยมุมมืดออกมา เพลงที่สอง ‘มหาสงกรานต์’ ฟีเจอริ่งกับ ‘กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่’ แร็ปเปอร์ชื่อดังเมืองไทย เนื้อหาสื่อให้เห็นความงดงาม ความสนุกสนาน ความกตัญญู ในประเพณีวันขึ้นปีใหม่ของไทย

เป็นการทำงานที่มีเป้าหมายชัดเจนคือ ต้องการเชื่อมผู้ฟังรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ ชักชวนศิลปินต่างวัยที่มีฐานผู้ติดตามทางเฟซบุ๊ก และยูทูบ มากกว่าล้านคน มาสร้างสรรค์ผลงานร่วมกัน โดยก่อนหน้านี้เธอปล่อยเพลง ‘พิษต้านพิษ’ ฟีเจอริ่งกับ ‘แซ็ค ชุมแพ’ เจ้าของเสียงร้องเพลงคำแพง คนร้องตามได้ทั้งมือง, เพลง ‘พื้นที่ทับซ้อน’ และ ‘ที่ต้องห้าม’ ฟีเจอริ่งกับ ‘กระต่าย พรรนิภา’ ขวัญใจสายแดนซ์รถแห่, เพลงรัก ‘จริงพรือ’ ฟีเจอริ่งกับ ‘ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น’ สาวน้อยนักร้องเสียใสเน็ตไอดอลแดนใต้, เพลง ‘ชานเล้าบันเทิงศิลป์’ ฟีเจอริ่งกับ ‘น้องทิวเทน’ ศิลปินเด็กวัย 8 ขวบ เจ้าของเพลงฮิต รถแห่รถยู้ (ปะโล้งโป๊งฉึ่ง) และเพลง ‘คุยเล่นๆ’ กับ ‘ศาล สานศิลป์’ เจ้าของเสียงร้องเพลงระเบิดเวลา เพลงประกอบภาพยนตร์ไทบ้านเดอะซีรีส์

“เราถามตัวเองก่อนว่า เราเป็นนักร้อง จะหยุดร้องเพลงไหม ถ้าคิดว่าไม่หยุด สำคัญที่สุดก็คือแฟนเพลง ทุกคนสำคัญที่สุดสำหรับงานของเรา เพราะฉะนั้นก็ต้องเอาใจทุกกลุ่ม ส่วนตัวไม่รู้หรอกว่าเป็นสูตรที่ถูกหรือผิด แต่คิดว่าเหมาะแล้ว เพราะคงไม่เลิกร้องเพลงวันนี้ พรุ่งนี้ ตราบใดที่ยังมีแรงก็ต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ เหมือนการทำนา ต้องหาสูตรปุ๋ยมาใส่เพื่อให้ข้าวในนาออกรวงสวยงาม ได้ผลผลิตที่ดี ในฐานะที่เป็นนักร้องรุ่นเก่า มีแฟนเพลงเป็นคนรุ่นใหม่ ถ้าปล่อยแต่เพลงแนวเดิมๆ ลูกทุ่งอีสาน หมอลำ ตามที่เราถนัด เด็กๆ เขาจะเบื่อไหม จะไปต่อกับเราไหม การเป็นนักร้องถ้าคิดแค่อดีตเราเจ๋ง ปัจจุบันเราก็จอด และสิ่งที่ทำในปัจจุบันก็จะส่งผลถึงอนาคต”

เจ้าของฉายาสาวเสียงพิณ บอกที่มาของการตัดสินใจชักชวนศิลปินรุ่นใหม่มาสร้างสรรค์งานร่วมกัน มาจากความสำเร็จของเพลงเต่างอย ทำให้เธอมีฐานแฟนคลับเพิ่มมากขึ้น เกินครึ่งเป็นเด็กรุ่นใหม่วัยทีน จึงเห็นสมควรว่า นอกจากสร้างผลงานเพื่อเสิร์ฟแฟนเพลงยุคเก่าที่ติดตามผลงานกันมาอย่างเหนียวแน่น ต้องเอาใจคนรุ่นใหม่ด้วย เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นนักร้องถ้ายังไม่มีความคิดที่จะหยุดร้องเพลง แฟนคลับ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ มีความสำคัญ ถ้าไม่ให้ความสำคัญกับทุกคนน่าจะไปต่อลำบาก