ไม่พบผลการค้นหา
'ณัฐวุฒิ-บก.ลายจุด' เเถลงเเนวทางจัดคาร์ม็อบ 29 สิงหาคม เคลื่อนผ่าน 3 จังหวัด กรุงเทพฯ-นนทบุรี-ปทุมธานี รวมระยะทาง 50 กิโลเมตร เผยหลังจากนี้จะนัดชุมนุมใหญ่ จัดกิจกรรมนอกสภา คู่ขนานกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี 31 ส.ค.-2 ก.ย. แนะม็อบดินแดง ถอดบทเรียนการชุมนุม หวั่นเป็นกับดัก ให้รัฐใช้ความรุนแรง

วันนี้ (26 ส.ค.64) ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พร้อมด้วย สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ร่วมเเถลงข่าวการเตรียมความพร้อมจัดกิจกรรม “Car Mob – Call Out 29 สิงหา” 

ณัฐวุฒิ กล่าวว่า การนัดหมายครั้งนี้ ถือเป็นการเคลื่อนขบวนครั้งสำคัญ เพราะหลังจากนี้จะยกระดับการเคลื่อนไหว ขอเชิญชวนประชาชนให้ออกมาร่วมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเเสดงให้เห็นว่า มีประชาชนเป็นจำนวนมาก กล้าฝ่าข้อจำจัดต่าง ๆ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่ออกมาชุมนุม คาร์ม็อบครั้งนี้เป็นการเเสดงพลังครั้งสุดท้าย ก่อนจะเกิดการชุมนุมใหญ่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

โดยตลอดเส้นทาง ณัฐวุฒิ เผยว่า นอกจากการปราศรัยสลับกับการเล่นดนตรีในรูปแบบออนไลน์แล้ว ก็จะมีกิจกรรมต่างๆมากมาย อาทิ การประกวดตกเเต่งรถ ประกวดข้อความบนรถ ประกวดภาพถ่ายสำหรับช่างภาพมือสมัครเล่น เเละประกวดกองเชียร์ 2 ข้างทาง

สำหรับเส้นทางคาร์ม็อบครั้งนี้ นัดหมายทุกกลุ่ม ในเส้นทางเดียว รวมพลเวลา 14.00 น. ตรงบริเวณอุโมงค์ทางลงเเยกเกษตร หัวขบวนมุ่งหน้าถนนวิภาวดีรังสิต ส่วนท้ายขบวนจะอยู่บริเวณเเยกเกษตรนวมินทร์

ก่อนเคลื่อนขบวนในเวลา 15.00 น. ลงทางลอดอุโมงค์เกษตร ข้ามสะพานข้ามเเยกถนนวิภาดี มุ่งหน้าถนนงามวงค์วาน/ ข้ามสะพานเเยกพงเพชร ข้ามสะพานเเยกเเคราย ขึ้นสะพานพระนั่งเกล้า ขนานเส้นทางรถไฟฟ้า ผ่านเเยกท่าอิฐ ลงสะพานยกระดับ เเล้วโค้งขวาไปตามถนนราชพฤกษ์ 

จากนั้นเข้าสู่ถนนชัยพฤกษ์ ขึ้นสะพานข้ามเเม่น้ำเจ้าพระยา / ลงห้าเเยกปากเกร็ด เพื่อเข้าถนนติวานนท์ ตรงยาวไปทางสวนสมเด็จฯ / เเล้วตรงยาว เข้าสู่จังหวัดปทุมธานี ข้ามสะพานปทุมธานี เเละสิ้นสุดปลายทางที่ลานเทพปทุม ตรงข้ามศาลากลางหลังเก่าของจังหวัดปทุมธานี เมื่อถึงจุดนัดหมาย จะมีการปราศรัยเพื่อย้ำใน ข้อเรียกร้องการขับไล่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เเล้วจะยุติไม่เกิน 18.00 น. ก่อนประกาศนัดหมายการชุมนุมใหญ่ครั้งต่อไป 

โดยรวมระยะทางคาร์ม็อบ 50 กิโลเมตร เชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพมหานคร เเละปริมณฑล กินพื้นที่ 3 จังหวัด

สำหรับการชุมนุมครั้งต่อ ๆ ไป ณัฐวุฒิ ระบุว่า หลังจากนี้รูปเเบบการชุมนุมคงเปลี่ยนเเปลง จะไม่ใช่รูปเเบบคาร์ม็อบอีก เเต่ยังยืนยันในหลักสันติวิธี เเละหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะนำไปสู่การเผชิญหน้าทุกรูปเเบบ ทั้งนี้ ตนยินดีต้อนรับทุกกลุ่มทุกฝ่ายที่มีเจตนารมณ์ร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการจัดกิจกรรม จะทำการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เข้าใจเส้นทางเเละวัตถุประสงค์ เสมือนการทำงานร่วมกัน ภายใต้กรอบกฎหมาย 

ณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึง กรณีการชุมนุมของมวลชนอิสระที่เเยกดินเเดง ที่มีการปะทะกันกับเจ้าหน้าที่ ว่าไม่ใช่สิ่งที่เป็นประโยชน์ ทั้งผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมระบุอีกว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทุกครั้ง รัฐปฎิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ซึ่งตนขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงจุดยืนว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการปะทะ และให้กำชับเจ้าหน้าที่ว่าควรหลีกเลี่ยงสิ่งนี้

ส่วนข้อเสนอถึงผู้ชุมนุม ณัฐวุฒิ บอกว่า ไม่ขอก้าวก่าย แต่ควรสรุปบทเรียนว่า แนวทางการออกมาไล่ พล.อ.ประยุทธ์ แนวทางไหนดีที่สุด ซึ่งตนมองว่า การลดเงื่อนไขการปะทะ จะลดการบาดเจ็บ และสูญเสียได้ 

ด้าน สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด กล่าวว่า รูปเเบบการชุมนุมเเบบคาร์ม็อบเดินทางมาถึงช่วงเวลาสำคัญ ที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้นทุกครั้ง เเละเชื่อว่า ในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ จะมีผู้เข้าร่วมมากที่สุดตั้งเเต่จัดกิจกรรมมา 

ขณะที่ในวันที่ 31 สิงหาคม ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 2 กันยายน จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา พวกตนก็จะมีการนัดหมายชุมนุมใหญ่ ทำกิจกรรมอีกรูปเเบบคู่ขนานนอกสภา ซึ่งจะมีการลงคะเเนนไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีนอกสภา หากเสียงของประชาชนมีมติไม่ไว้วางใจ เเต่เสียงในสภายังไว้วางใจอยู่ ก็จะมีการชุมนุมใหญ่อย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ อยากเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาล มีส่วนร่วมในการทำให้นายกรัฐมนตรีลาออก เพราะหากพรรคร่วมรัฐบาลยังนิ่งเฉย ทำตัวเป็นนั่งร้านให้ประยุทธ์ต่อไป ประชาชนจะเป็นผู้ติดสินเองในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ทุกกลุ่มการเมือง เเละประชาชนทุกภาคส่วนมาร่วมมือกัน เชื่อว่าจะได้ผลภายใน 2 สัปดาห์

ส่วนเรื่องของปฎิกิริยาที่เกิดขึ้นบริเวณแยกดินแดงนั้น เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนไม่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป อย่างไรก็ดี สมบัติ ย้ำว่า การชนะ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่การใช้กำลัง แต่เป็นการชนะทางการเมือง ซึ่งถือเป็นแนวทางหลัก พร้อมระบุอีกว่า การเดินทางไปยังบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งอยู่ในกรมทาหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เป็นกับดักของการชุมนุมอย่างแน่นอน เพราะแม้ว่า จะฝ่าตู้คอนเทนเนอร์เข้าไปได้ หรือ เข้าไปในรั้วของ กรมทหารราบที่ 1 ได้ ก็ไม่พบตัว พล.อ.ประยุทธ์ และไม่ส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกแต่อย่างใด ส่วนตัวมองว่า ผู้ชุมนุมควรถอดบทเรียนเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วน