ไม่พบผลการค้นหา
'ศุภชัย' โพสต์ครวญ 'อนุทิน'แพะรับบาปแทน ศบค. แฉ 'ปิยะสกล' อำนาจเหนือกว่า รมว.สธ.ในการจัดหาวัคซีน ด้าน พปชร.เรียงหน้าเตือนอย่าโทษกันเอง ไม่เห็นใจนายกฯ ก็ให้เห็นใจประชาชนบ้าง

กรณี ศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2564 ว่า “อนุทิน” กับการจัดหาวัคซีน แพะรับบาปของ ศบค.

โดยระบุตอนหนึ่งว่า วันที่ 9 เม.ย. 2564 นายกรัฐมนตรี ได้ออกคำสั่งที่ 5/2564 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019(โควิด 19)  มี อ.ปิยะสกล สกลสัตยาธร เป็นประธาน ซึ่งตนเคยเสนอเรื่องนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว การกำหนดวัคซีนหลัก วัคซีนทางเลือก มาจากกรรมการที่ นพ.ปิยะสกล เป็นประธาน มีเจ้าของรพ.เอกชน เป็นกรรมการเบอร์ 9-16 เป็น เจ้าของ รพ.เอกชน นพ.ปิยะสกล คือ อดีต รมว.สาธารณสุขที่มีอำนาจเหนือ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุขในการจัดการทั้งปวงเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีน

หน้าที่และอำนาจ ข้อ 1 คือ เสนอแนวทาง มาตรการจัดหาวัคซีน มาใช้ทั้งในสถานพยาบาลของรัฐ และ เอกชน ของรัฐ ก็คือ วัคซีนหลัก ของเอกชนก็คือ วันซีนทางเลือก ข้อ 2 พิจารณาจัดหาวัคซีน ข้อ 3 ดำเนินการตามนายกรัฐมนตรี มอบหมาย

ศุภชัย กล่าวว่า แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาประชาชนไม่เคยทราบว่าคณะทำงานชุดนี้ทำอะไรบ้าง นอกจากมีข่าวของ นพ.บุญ วนาสินว่าเป็นกรรมการ มีหน้าที่ กำหนดตัวไหนทางหลัก ทางเลือก และที่ทราบคือการวางมาตรการจัดซื้อ จัดหา จำหน่าย อย่างไรเจ้าของรพ.เอกชน เป็นทั้งผู้กำหนดนโยบาย ผู้กำหนดแนวทางซื้อ และ ขาย ซึ่งนี่มันผลประโยชน์ทับซ้อนเห็นๆ

ศุภชัย กล่าวว่า นี่คือ ศบค. ได้มองเห็นหรือไม่? และนี่คือเหตุที่มีการใช้สื่อตีวัคซีนของรัฐบาล ให้คนรอโมเดอนา ที่ รพ.เอกชน ซื้อผ่าน อภ.มาทำธุรกิจ ?

1

เขา กล่าวว่า ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ประกาศจัดหาวัคซีนให้ได้ 100-150 ล้านโดส ในปี 2564 คณะทำงานชุดนี้ ได้สนองนโยบายและคำสั่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คือ ในคณะทำงานชุดนี้ ไม่มี รมว.สาธารณสุข และมีผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เพียง 5 คน จากทั้งหมด 18 คน

ศุภชัย ระบุว่า และถ้าได้อ่านคำสั่งนี้กี่ครั้งๆ ก็ไม่พบว่า อนุทิน มีชื่ออยู่ในนี้และชัดเจนว่า คนจัดการวัคซีน คือ นพ.ปิยะสกล กับ เจ้าของ รพ.เอกชน ซึ่งตนคิดว่าท่านควรจะออกมาบอกให้ประชาชนได้รับรู้ว่าท่านได้ทำอะไรไปบ้าง และ ศบค. ก็ต้องออกมาบอกประชาชนว่าความจริงเป็นเช่นไร ไม่ใช่ปล่อยให้ อนุทินเป็นแพะรับบาป ไม่ว่าอย่างไร จนถึงวันนี้ คนกระทรวงสาธารณสุขก็พร้อมรับปฏิบัติ ทั้งๆที่ไม่อยากทำ เพราะนี่คือ การเอาเปรียบรัฐ เอาเปรียบประชาชน หากินกับประชาชนที่กำลังเดือดร้อนและเสียขวัญ

ศุภชัย ระบุ อนุทิน วันนี้ กลืนเลือด ไม่ท้อ ไม่ถอย ยอมให้ด่าทุกเรื่อง แต่อดทน เพราะอาสามาทำงานเพื่อประชาชน เป็นหัวหน้าพรรคที่บอกลูกพรรคที่ห่วงใยว่ากลับไปหาประชาชน ไม่ต้องห่วงผม และยังออกมาดำเนินการเรื่องวัคซีนตามข่าวนั้นทั้งๆที่ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ตามคำสั่งนั้นก็ตาม เพราะทนเห็นความทุกข์ยากของประชาชนไม่ได้

“พัชรินทร์” แนะ ให้หนักแน่น

วันที่ 19 ก.ค. 2564 พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส. กทม. ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า รัฐบาลโดยการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รวมถึง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุกกระทรวง ได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 การบริหารจัดการในสถานการณ์ปัจจุบันบนภาวะวิกฤต ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นทั่วโลก แน่นอนว่าทั้งข้อจำกัดและแรงกดดันย่อมมีมากเป็นทวีคูณ การตัดสินใจดำเนินการสิ่งใดย่อมต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อเกิดประโยชน์แก่ประเทศและประชาชนอย่างสูงสุด แต่สิ่งที่ยากก็คือข้อจำกัดที่อยู่นอกเหนือการควบคุม เช่น การกลายพันธุ์ของโควิด-19 ทำให้อาจจะไม่สามารถทำอย่างที่เราต้องการได้ทั้งหมด

พัชรินทร์

พัชรินทร์ กล่าวว่า ยิ่งเมื่อรัฐบาลถูกโจมตีจากผู้ไม่หวังดีและบิดเบือนความจริงจำนวนมาก ยิ่งต้องรับแรงกดดันนั้นด้วยสติ และแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ต่อไป โดยไม่กล่าวโทษไปมา เพราะทุกการตัดสินใจ ก็ผ่านคณะที่ปรึกษา และคณะรัฐมนตรี ร่วมตัดสินใจด้วย จึงอยากให้มีความหนักแน่น เพื่อพาประเทศผ่านพ้นวิกฤตนี้โดยเร็วที่สุด และนำความปกติสุขคืนสู่ประชาชน ไม่หวั่นไหวไปกับการกระพือข่าวสร้างความแตกแยกของผู้ไม่หวังดีต่อชาติ แต่หากเสียงสะท้อนนั้นสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ก็นำมาปรับปรุงให้ดีขึ้นได้

ธนกร บอก นายกฯโดนหนักกว่า

ด้าน ธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากศุภชัยบอกว่า อนุทินวันนี้กลืนเลือด ยอมให้ด่าทุกเรื่องนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม น่าจะเป็นคนที่กลืนเลือดและยอมถูกด่ามากกว่า เพราะไม่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลดำเนินการอะไร ท่านนายกฯ ก็ยอมถูกด่าก่อนเสมอในฐานะหัวหน้ารัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ทุกการทำงานย่อมมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ ดังนั้น ใครได้รับมอบหมายอะไรไปก็ควรไปทำตามหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ใช่โยนไปมาว่าใครเป็นคนผิด ใครต้องเป็นคนรับผิดชอบ เพราะถ้าจะหาคนรับผิดชอบก็คงต้องรับผิดชอบร่วมกันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ดังนั้น สู้เอาเวลาไปชี้แจงประชาชนให้เห็นถึงสิ่งที่คนกลุ่มหนึ่งมักจะชอบบิดเบือน และพยายามสร้างความสับสนให้กับประชาชนมาตลอดยังจะดีเสียกว่า

ธนกร

"อย่ามัวแต่โทษกันเลยครับ ถ้าไม่สงสารท่านนายกฯ ก็ควรสงสารประชาชนที่รอคอยฟังข่าวจากรัฐบาลอยู่ทุกวี่วันบ้าง อย่าทำให้ประชาชนยิ่งสับสนไปกว่านี้อีกเลย เพื่อที่จะได้ช่วยกันพาประเทศฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน" ธนกร กล่าว