พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของนายภคพงษ์ ตันกาญจน์ หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ว่า กองทัพไทยได้ออกมาชี้แจงรายละเอียดต่อเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และมีหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิด ขณะที่น้องเมยอยู่ที่โรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งที่ผ่านมาได้บันทึกประจำวันและทำตามระเบียบของกฎหมายทุกขั้นตอน และในวันนี้แพทย์แจ้งให้ครอบครัวมารับอวัยวะภายในกลับคืนหลังจากนำไปชันสูตรแล้ว

ส่วนกรณีที่การประสานชี้แจงข้อมูลมีความคลาดเคลื่อนนั้น พลเอกประวิตรกล่าวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นได้เกิดขึ้นมาแล้วกว่า 1 เดือน และทางโรงเรียนเตรียมทหารได้เข้าไปดูแล พร้อมช่วยจัดการงานศพ ตามระเบียบทุกขั้นตอน

ทั้งนี้ พลเอกประวิตรได้กล่าวแสดงความเห็นใจกับครอบครัวของน้องเมยที่ต้องมาสูญเสียบุตรชายไป และเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะเชิญครอบครัวของน้องเมยมาร่วมการแถลงข่าว เนื่องจากได้มีการชี้แจงไปแล้ว และยืนยันว่า แม้พนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งการเก็บชิ้นส่วนอวัยวะให้กับครอบครัว แต่ก็ได้ปฏิบัติตามรูปคดี ซึ่งวานนี้ (21 พ.ย) พนักงานสอบสวนได้เข้ามาชี้แจงรายละเอียดดังกล่าว รวมทั้งระเบียบของแพทย์ที่จะนำอวัยวะไปตรวจสอบ 

ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิต เบื้องต้นเกิดจากสุขภาพของน้องเมย์เอง และยืนยันว่าไม่มีการซ้อมใด ๆ ทั้งสิ้น โดยโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าไม่ได้มีการปิดบังซ่อนเร้นข้อมูลใด ๆ

เมื่อถามถึงข้อสงสัยว่า หากสุขภาพไม่ดี และมีโรคประจำตัว เหตุใดน้องเมยจึงสามารถสอบผ่านเข้ามาเรียนได้ พลเอกประวิตร กล่าวว่า ตนเองก็ต้องการทราบรายละเอียดเช่นเดียวกัน ขณะที่บันทึกประจำวันของน้องเมย ระบุว่ามีการซ่อม พลเอกประวิตร กล่าวว่า ทุกคนที่เข้าเรียนจะต้องเตรียมใจยอมรับ ว่าต้องมีการซ่อม หรือ ธำรงวินัย เกิดขึ้นทุกรุ่น หากทำผิดกฎระเบียบของโรงเรียน ซึ่งตนเองก็เคยผ่านการถูกซ่อมแล้วเช่นกัน และยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะคนเรื่องกัน

ด้านพล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) กล่าวว่านักเรียนเตรียมทหารคนดังกล่าว ไม่มีสภาวะการเป็นโรคฮีทสโตรก โดยทางแพทย์ที่ดูแลชี้แจงแล้ว แต่คาดว่าน้องเมยน่าจะมีโรคประจำตัว ที่ไม่ได้ร้ายแรง และขัดต่อการเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ทั้งนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีที่มีข้อความสนทนาออนไลน์ของน้องเมยหลุดและระบุว่าถูกรุ่นพี่ซ่อมเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป

ด้านพลตรีคงชีพ ตันตระวานิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า นักเรียนเตรียมทหารรายนี้ไม่ได้มีอาการฮีทสโตรกมาก่อน ส่วนเรื่องการฝึกนั้น กระทรวงกลาโหมให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนเตรียมทหาร นักเรียนนายร้อย หรือ ทหารเกณฑ์ก็ตาม

"ทุกชีวิตมีค่า การเตรียมกำลังให้พร้อมรบ ทำให้ต้องฝึกให้ทหารทุกนายมีความพร้อมในการรบ ต้องสามารถนำชัยชนะมาสู่ทุกการรบให้ได้ ไม่มีใครอยากให้สูญเสีย" โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าว

พลตรีคงชีพ กล่าวอีกว่า ในการฝึกคนนั้น ทางกองทัพฝึกให้มีความเข้มแข็งทั้งในด้านจิตใจและร่างกาย การซ่อมก็เป็นการทำให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรง การเป็นผู้นำคนจะต้องแข็งแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ