ไม่พบผลการค้นหา
รพ.อ่างทองตั้งโต๊ะแจงปมแพทย์สั่งใช้ยาฆ่าพยาธิสุนัขกับผู้ป่วย ยันสามารถใช้ในคนได้และไม่พบมีผู้เสียชีวิต

หลังนางประภาพร เกตุเม้า หรือ ป้าออด อายุ 58 ปี ร้องผ่านสื่อมวลชนกรณี นายแสวง เกตุเม้า อายุ 58 ปี สามี เสียชีวิตหลังจากเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากท้องเสีย โดยแพทย์แจ้งว่านายแสวง ป่วยเป็นโรคพยาธิในตับ หลังทำการรักษาอยู่หลายวันอาการไม่ดีขึ้น จนแพทย์ได้ให้ทางญาติไปซื้อยาฆ่าพยาธิสุนัข มาเพื่อทำการรักษาเนื่องจากตัวยาดังกล่าวทางโรงพยาบาลไม่มี และหลังจากให้ยาไปประมาณ 5 นาที นายแสวงเกิอแน่นิ่งไปจนต้องปั้มหัวใจก่อนที่อาการจะทรุดลงอย่างต่อเนื่องจนญาติขอนำกลับมาที่บ้านเพื่อถอดเครื่องช่วยหายใจเนื่องจากเป็นความประสงค์ของญาติที่ต้องการให้นายแสวงมาสิ้นใจที่บ้านตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

เหตุการณ์ดังกล่าวนำมาสู่ข้อสงสัยจากทางญาติว่ายารักษาพยาธิสุนัขดังกล่าวสามารถนำมารักษาคนได้จริงหรือและเป็นสาเหตุให้นายแสวงเสียชีวิตหรือไม่

ล่าสุดที่โรงพยาบาลอ่างทอง โดย แพทย์หญิงดรุณี งามภูพันธ์ รอง ผอ.โรงพยาบาล, นางกาญจนา เพียรเดช รอง ผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลพร้อมด้วยเภสัชกร ร่วมกันชี้แจงสื่อมวลชนถึงขั้นตอนการรักษานายแสวง เกตุเม้า ผู้เสียชีวิต โดยตั้งแต่วันแรกที่นายแสวงเข้ารักษาตัวในวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา คนไข้มีโรคประจำตัว คือ ไตวายระดับ 4, ความดันโลหิดสูง, โรคเก๊าท์ และมีอาการท้องเสีย จนกระทั่งแพทย์ตรวจพบพยาธิตัวกลมที่ชื่อ Strongyloies (สตรองจิรอยด์) ซึ่งเป็นพยาธิที่เกิดขึ้นทั้งในคนและสัตว์ แพทย์ผู้ทำการรักษาได้ให้ยา Albendazole 

ต่อมาวันที่ 31 ต.ค. 2561 ผู้ป่วยมีอาการไม่ดีขึ้น มีภาวะเลือดแข็งตัว แพทย์จึงสั่งยาถ่ายพยาธิชื่อ Ivermectun ซึ่งระหว่างรอยาคนไข้มีอาการทรุดลงจนต้องใส่ท่อช่วยหายใจในเวลา 17.30 น. และเมื่อได้ยาจากทางญาติมาจึงต้องให้ยาทางสายอาหารโดยให้ยาเพียง 1 ใน 4 ส่วนเม็ด หรือเท่ากับ 200 ไมโครกรัมจากกปกติต้องใช้ 1 ¼ เม็ด เนื่องจากผู้ป่วยมีอาการท้องอืดไม่สามารถรับยาได้ หลังจากนั้นอาการของผู้ป่วยทรุดลงตามลำดับ จนกระทั่งเวลา 22.00 น. แพทย์สั่งเอ็กซเรย์ปอดพบมีภาวะน้ำเกินในปอด ต่อมาในวันที่ 1 พ.ย. เวลา 14.00 น. ผู้ป่วยมีอาการหัวใจหยุดเต้นทางแพทย์ได้ช่วยปั้มหัวใจฟื้นคืนชีพ และรักษาจตามอาการต่อมาวันที่ 2 แพทย์ได้อธิบายภาวะของโรคให้ญาติฟังหลังผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ทางญาติจึงขอนำผู้ป่วยกลับบ้าน

ส่วนกรณียาดังกล่าวสามารถใช้ได้ทั้งในคนและสัตว์เพราะตัวยาด้านในเป็นตัวยาเดียวกัน ซึ่งการให้ยาผู้ป่วยได้ไปปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงไม่น่าที่จะเกิดอาการแทรกซ้อนจากยา แต่ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวและมีอาการหนักตั้งแต่ยังไม่ได้ให้ยาแล้ว ซึ่งในทางการแพทย์ไม่สามารถยืนยันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าเสียชีวิตจากอะไร แต่เท่าที่ทราบน่าจะเกิดจากโรคประจำตัว ส่วนกรณีที่ให้ทางญาติไปซื้อยาจากภายนอกมาใช้และสร้างความตกใจให้กับทางญาติคงต้องปรับระบบการสั่งซื้อยาภายในโดยอาจจะให้เจ้าหน้าที่เป็นคนดำเนินการแทน

ด้านเภสัชกรประจำโรงพยาบาลอ่างทองเปิดเผยว่า อาการข้างเคียงของยาตัวนี้ก็มีเพียงปวดหัว เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องเสียเท่านั้น ซึ่งเป็นอาการของยาทั่วๆ ไปเท่านั้น

ขณะที่ หลังจากชี้แจงทางคณะแพทย์เตรียมเดินทางไปพูดคุยทำความเข้าใจกับทางญาติของผู้เสียชีวิต โดยเบื้องต้นทางสาธารณสุขจังหวัดอ่างทองได้ประสานทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลศาลาแดง ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ลงไปพูดคุยทำความเข้าใจเบื้องต้นแล้ว