ไม่พบผลการค้นหา
อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกาโพสต์เฟซบุ๊กเอาผิด 'เวิร์คพอยท์' หลังนำข้อความบางส่วนที่ตนแสดงความเห็นกรณี 'บ้านพักศาลบนดอย' ไปเผยแพร่ต่อ ชี้เข้าข่ายบิดเบือนข้อเท็จจริง ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ละเมิดตามประมวลแพ่งและพาณิชย์ เตือนนักเลงคีย์บอร์ดผู้ออกความเห็นให้เสียหาย จะดำเนินคดีด้วย

จากกรณีสถานีโทรทัศน์เวิร์คพอยท์ นำข้อความจากเฟซบุ๊กนายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ที่ระบุเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารศาลอุทธณ์ ภาค 5 และบ้านพักตุลาการที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา 

ล่าสุดนายชูชาติ ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว พร้อมกับระบุถึงผู้อำนวยการหรือผู้มีอำนาจสูงสุดของสถานีโทรทัศน์เวิร์คพอยท์ (work point) ช่อง 23 ซึ่งมีข้อความที่อ้างถึงสถานีโทรทัศน์เวิร์คพอยท์ ได้นำข้อความที่ตนเขียนลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารศาลอุทธณ์ ภาค 5 และบ้านพักตุลาการที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตนมีเจตนาเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รู้ว่า หน่วยงานราชการแห่งหนึ่งเข้าไปก่อสร้างอาคารในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเป็นป่าตามกฎหมาย แต่ไม่มีผู้คัดค้านว่าเป็นการรุกล้ำ "ป่า" แต่หน่วยงานราชการอีกแห่งหนึ่งเข้าไปก่อสร้างอาคารในพื้นที่ นอกเขตอุทยานแห่งชาติและไม่ได้เป็นป่าตามกฎหมาย กลับมีผู้คัดค้านซึ่งรวมทั้งสภาคณาจารย์ฯ โดยอ้างว่ารุกล้ำ"ป่า"

อีกทั้ง เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์เวิร์คพอยท์ ได้นำภาพถ่ายของตนไปลงและมีข้อความที่เขียนด้วยตัวอักษรด้านล่างภาพถ่ายโดยตัดข้อความที่มีสาระสำคัญในส่วนที่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ออกไป ซึ่งนายชูชาติ เห็นว่า เมื่อมีการตัดทอนข้อความดังกล่าวออก จึงเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ต่างไปจากที่ตนเขียนไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวและเป็นการตัดทอนข้อความในเฟซบุ๊กอันเป็นเอกสารที่แท้จริงออกไป แต่ยังมีข้อความยืนยันว่าเป็นข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัวของตน นายชูชาติระบุว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 และ 268

ส่วนการนำข้อความดังกล่าวไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก Workpoint News - ข่าวเวิร์คพอยท์ อันเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จึงมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 14

นายชูชาติระบุว่าการนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยหลอกลวงไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก Workpoint News - ข่าวเวิร์คพอยท์ ทำให้ตนและตุลาการศาลยุติธรรมได้รับความเสียหายมาก เพราะมีผู้เข้ามาให้ความเห็นเป็นจำนวนมาก ด่าตนและตุลาการทั้งหมด ด้วยถ้อยคำที่ดูหมิ่นเหยียดหยามและหยาบคาย ทั้งในเฟซบุ๊ก Workpoint News - ข่าวเวิร์คพอยท์ และในเฟซบุ๊กส่วนตัว

"การกระทำดังที่กล่าวแล้วนอกจากมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 กับมาตรา 268 และพระราชบัญญัติว่าการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ 2560 (ฉบับที่ 2) มาตรา 14 (1) แล้ว ยังเป็นการทำละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ด้วย"

พร้อมกันนี้ นายชูชาติ ยังระบุด้วยว่า "อนึ่ง ขอเรียนให้ผู้ที่เข้าแสดงคิดเห็นในทั้งเฟซบุ๊ก Workpoint News - ข่าวเวิร์คพอยท์ และในเฟซบุ๊กส่วนตัวของข้าพเจ้า ทราบว่า ถ้ามีข้อเขียนที่ผิดกฎหมาย ข้าพเจ้าก็จำเป็นต้องดำเนินตามกฎหมายด้วย"

"จึงเรียนให้ท่านทราบว่า การกระทำดังกล่าวมาข้างต้นผิดกฎหมายทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ข้าพเจ้าจะไม่ขอให้ท่านดำเนินการใดๆ เป็นเรื่องของท่านที่ต้องพิจารณาเอาเอง แต่ขอเรียนว่าหากไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อแก้ไขการกระทำที่ทำให้ข้าพเจ้าและตุลาการศาลยุติธรรมได้รับความเสียหายกับชดใช้ความเสียหายที่ข้าพเจ้าได้รับภายในเวลาอันสมควร ข้าพเจ้าก็จำเป็นต้องฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรมเพื่อขอความเป็นธรรมจากศาลยุติธรรมต่อไป"

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ (23 เม.ย.) นายชูชาติ ได้แสดงความเห็นเรื่องโครงการบ้านพักตุลาการเชิงดอยสุเทพ โดยเปรียบเทียบการใช้พื้นที่ก่อสร้างบ้านพักตุลาการกับพื้นที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตสะลวง-ขี้เหล็ก พร้อมกับระบุว่า "หน่วยงานราชการเหมือนกัน ต้องการพื้นที่ก่อสร้างอาคารเพื่อใช้ประโยชน์ในราชการเหมือนกัน ต่างกันเพียงหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติไม่เหมือนกันเท่านั้น"


อ่านเพิ่มเติม