นายชำนาญ ฤาชัย ผู้อำนวยการใหญ่ ภูมิภาคและศูนย์ประกอบการ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า เทศกาลลอยกระทงในจังหวัดภาคเหนือ หรือเทศกาลยี่เป็ง ส่วนใหญ่จะมีการปล่อยโคมลอย โคมไฟ โดยมีการจุดไฟเพื่อให้เกิดอากาศร้อนพยุงตัวโคมให้ลอยขึ้นและโคมควันจะบรรจุด้วยความร้อนไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงปล่อย ให้ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า

ปัจจุบันผู้ผลิตได้มีการพัฒนาวัสดุที่ใช้ทำเชื้อเพลิงเพื่อให้วัตถุสามารถลอยตัวได้สูงขึ้นและนานขึ้น ซึ่งอาจมีอันตรายที่อาจเกิดขึ้นทั้งภาคอากาศและภาคพื้นดิน หากเกิดไฟไหม้ที่ตัวโคมลอยขณะลอยอยู่เหนือท้องฟ้าและร่วงหล่นลงมาสู่พื้นดินทุ่งหญ้าร้านค้า บ้านเรือนและทรัพย์สินต่างๆ ของประชาชนก็เป็นสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ ทำให้บ้านเรือนเสียหาย หรืออาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ หากโคมลอยติดหรือลอยไปตกบนสายไฟฟ้าแรงสูงอาจจะทำให้หม้อแปลงระเบิดส่งผลให้ไฟฟ้าดับในวงกว้าง และหากตกลงมาบนทางวิ่ง หรือทางขับในพื้นที่สนามบินก็จะเป็นวัตถุอันตรายต่อเครื่องบินซึ่งต้องใช้เวลาเก็บทำความสะอาดและส่งผลกระทบต่อตารางการบินให้เกิดความล่าช้าของเที่ยวบินด้วย

ในช่วงเทศกาลประเพณียี่เป็งมีประกาศจังหวัดเชียงใหม่ สำหรับการจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ หรือวัตถุอื่น ให้กระทำได้ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 หรือ 22 พ.ย. 2561 และวันแรม 1 ค่ำเดือน 12 หรือวันที่ 23 พ.ย. 2561 ตั้งแต่เวลา 19.00 น ถึง 01.00 น. ของวันถัดไป

ส่วนโคมควัน สามารถจุดได้ในเวลา 10.00 น - 12.00 น. วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 หรือวันที่ 22 พ.ย. 2561 วันเดียวเท่านั้น ตามปฏิทินจันทรคติของไทยทุกปี สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศของจังหวัดเชียงใหม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด จึงขอความร่วมมือให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน รวมถึงประชาชน ได้ปฏิบัติตามประกาศของจังหวัดเชียงใหม่อย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความปลอดภัยการเดินอากาศของอากาศยาน ซึ่งจำเป็นต้องรักษามาตรฐานอากาศยานอยู่ในสภาพที่สามารถทำการบินได้อย่างปลอดภัย