พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีการจับกุมชายชาวมาเลเซีย ที่พยายามนำปืน และกระสุน ขึ้นเครื่องบินการบินไทย เที่ยวบินที่ TG342 จากการาจี ปลายทางกรุงเทพฯ ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย เป็นเพียงการขนอาวุธผิดกฎหมาย ไม่มีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทย เพราะประเทศไทยเป็นเพียงทางผ่านและไม่คิดว่าจะเป็นการไฮแจ็คเครื่องบิน
ขณะที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้ แต่ไม่น่าจะเป็นการจี้เครื่องบิน เนื่องจากไม่สามารถทำเพียงคนเดียวได้ และไม่ทราบว่าจะมาก่อเหตุในไทย หรือเพียงใช้ไทยเป็นทางผ่านเท่านั้น ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้ นายอัล มุห์ด อัลฟี คีห์รีล ชายสัญชาติมาเลเซีย อายุ 20 ปี ถูกจับกุมที่สนามบินนานาชาติในเมืองการาจีของปากีสถานตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ในข้อหาลักลอบขนอาวุธ โดยสำนักข่าวแชนแนลนิวส์เอเชียรายงานอ้างอิงเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสนามบิน ระบุว่าผู้ถูกจับกุมมีปืนพก 4 กระบอก และกระสุน 70 นัด ถูกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทางและรองเท้า
ด้านเว็บไซต์ฟรีมาเลเซียทูเดย์ รายงานว่า ชายคนดังกล่าวเตรียมตัวจะขึ้นเครื่องบินของการบินไทย เที่ยวบิน TG342 จากการาจีไปยังปลายทางที่กรุงเทพฯ ซึ่งหน่วยข่าวกรองมาเลเซียที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อระบุว่า นายมุห์ด อัลฟี วางแผนที่จะขนอาวุธไปยังมาเลเซีย และคาดว่าเขาอาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธไอเอสในตะวันออกกลาง
โมฮัมหมัด ฟูซี ฮารูน สารวัตรสอบสวนของมาเลเซีย เปิดเผยเพิ่มเติมว่านายมุห์ด อัลฟี เป็นนักศึกษาด้านกฎหมาย ซึ่งเดินทางไปจากเมืองเซริยัน รัฐซาราวัก ไปยังปากีสถานโดยขอวีซ่าท่องเที่ยวเป็นเวลา 14 วัน และจากการตรวจสอบประวัติพบว่าเขามาจากครอบครัวที่มีฐานะ แต่พ่อและแม่หย่าขาดจากกัน โดยเขาอาศัยอยู่กับพ่อและน้องชายอีกคนหนึ่ง ขณะที่นางนิแซม ผู้เป็นแม่ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าเธอพูดอะไรไม่ออก เพราะไม่คิดว่าลูกชายจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนเพื่อนบ้านที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อก็ยืนยันว่านายมุห์ด อัลฟี เป็นเด็กจิตใจดี อาจเป็นไปได้ว่าเขาถูกคนอื่นจ้างวานโดยไม่รู้ตัว
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวมาเลย์เมลออนไลน์ รายงานว่านายมุห์ด อัลฟี ยังถูกควบคุมตัวที่การาจีจนถึงขณะนี้ เพื่อให้ตำรวจปากีสถานสอบสวนเพิ่มเติมว่าเขาเกี่ยวข้องกับเครือข่ายติดอาวุธหรือกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติหรือไม่
ด้าน บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่ใช่การจี้ เครื่องบินTG 342 ที่จะออก เดินทางจากการาจี-กรุงเทพ เมื่อคืนวาน เนื่องจากบุคคลดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบอาวุธและจับกุมตั้งแต่ บริเวณประตูทางเข้าสนามบิน โดยที่ยังไม่ได้ผ่านขั้นตอนการเช็กอินเพื่อขึ้นเครื่องบิน ดังนั้นจึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นผู้โดยสารของเที่ยวบินทีจี TG 342
ส่วนกรณีที่สื่อต่างประเทศมีการระบุว่าผู้ถูกจับกุม กำลังจะโดยสารไปกับเที่ยวบิน TG 342 ของการบินไทยนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่า สื่อต่างชาติใช้วิธีการคาดเนื่องจากในช่วงเวลาที่บุคคลคนดังกล่าวถูกจับกุมนั้นเป็นช่วงเวลาที่มี เที่ยวบินที่กำลังจะออกเดินทางจากกรุงการาจีจำนวน4เที่ยวบิน ซึ่งประกอบด้วยเที่ยวสายการบินไทยเที่ยวบินทีจี 342 เที่ยวบินของสายการบินเอ็มเจ็ต และเที่ยวบินของสายการบินปากีสถานแอร์ไลน์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินทีจี 342 เส้นทางการาจี-กรุงเทพ สามารถออกเดินทางได้ตามปกติ ไม่ได้มีปัญหาขัดข้องใดๆและเดินทางได้มาถึงประเทศไทยโดยปลอดภัยแล้ว