ไม่พบผลการค้นหา
สื่อต่างชาติวิเคราะห์อนาคตการเมืองไทยในปี 2018 ว่า การเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลทหารสู่พลเรือนอาจไม่ราบรื่นนัก และปีนี้ก็อาจไม่มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย

สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชียน รีวิว เผยแพร่บทความของศาสตราจารย์ดันแคน แม็คคาร์โก นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ชื่อดังของอังกฤษ ที่ระบุว่าไทยอาจไม่มีการเลือกตั้งในปี 2018 หลังจากมีปัญหาว่าไม่สามารถจัดการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยได้ตามกำหนดในปี 2016

หลังจากที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเข้าพบกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาวเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ก็สัญญาว่า ไทยจะมีการเลือกตั้งช่วงปลายปี 2018 ซึ่งทำให้สหภาพยุโรปแถลงว่าจะพิจารณาฟื้นฟูความสัมพันธ์กับไทย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ท่าทีของรัฐบาลก็ยังคงไม่ชัดเจนนักว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2018 จริงหรือไม่ เช่น การตั้งคำถามให้ประชาชนตอบว่า ควรมีการตั้งพรรคการเมืองใหม่หรือไม่ นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็กำหนดระบบการเลือกตั้งที่พยายามเอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองขนาดกลาง แต่ปัจจุบัน ไม่มีพรรคการเมืองขนาดกลางที่ประชาชนชื่นชอบ

ส่วนการเลือกตั้งปี 2011 พรรคใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์กวาดที่นั่งไปถึง 424 ที่นั่งทั้งหมด 500 ที่นั่ง การรัฐประหารหลายครั้งที่ผ่านมา นำไปสู่การตั้งพรรคพันธมิตรของกองทัพ และคราวนี้ก็มีแนวโน้มว่า พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะตั้งพรรคหนุนกองทัพ เพื่อลงเลือกตั้งที่มีกำหนดว่าจะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ ขณะเดียวกันก็มีข่าวลือว่า พรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับฝ่ายของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. ก็อาจแยกพรรคกัน โดยนายสุเทพแสดงท่าทีว่าจะสนับสนุนพรรคประชารัฐของ คสช.

อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มสูงว่า ทุกฝ่ายการเมืองที่ต่อต้านตระกูลชินวัตรก็อาจไม่สามารถเอาชนะพรรคเพื่อไทย ที่มีฐานเสียงเหนียวแน่นในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพรรคเพื่อไทยเองก็ได้ลองทำผลสำรวจและประเมินว่าพรรคจะสามารถครองเสียง ข้างมากในรัฐสภาได้ และการที่ฝ่ายต่อต้านอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรแบ่งกลุ่มก้อนออกเป็นหลายๆพรรค ก็จะยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยได้เปรียบ แม้นักวิเคราะห์บางคนจะมองว่าการเลือกตั้งนี้จะทำให้พรรคใหญ่อย่างพรรคเพื่อ ไทยเสียเปรียบพรรคขนาดกลางและขนาดเล็ก และ คสช.ก็น่าจะเข้ามาดูแลระบบการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างใกล้ชิด ดังนั้น การที่พรรคเพื่อไทยจะคว้าชัยชนะมาได้อาจไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่ผ่านมา

นิกเกอิ เอเชียน รีวิว ยังได้คาดการณ์สถานการณ์การเมืองไทยออกมาเป็น 5 ทาง ได้แก่

1. รัฐบาลทหารจะประกาศเลื่อนการเลือกตั้งไปเป็นปี 2019 ซึ่งจะทำให้นานาชาติไม่เชื่อมั่นในประเทศไทยอีก และจะทำให้ประชาชนบางส่วนรู้สึกเบื่อหน่ายที่รัฐบาลไม่สามารถทำตามสัญญาได้ แต่อีกทางหนึ่ง รัฐบาลก็จะต้องยอมรับว่า ตัวเองล้มเหลวในการสร้างความสามัคคีและความสงบสุขตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

2. มีการเลือกตั้งช่วงปลายปี 2018 และพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง จัดตั้งรัฐบาล แต่จะเจอปัญหากับกองทัพและกลุ่มอำนาจเก่า

3. ฝ่ายต่อต้านตระกูลชินวัตรรวมตัวกันและร่วมกันควบคุมรัฐสภาและเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากฝ่ายตัวเองขึ้นมา

4. การเลือกตั้งจะแข่งขันกันดุเดือด จนมีการเสนอให้มีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนนอกขึ้นมา ซึ่งอาจมีการเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์

5. อาจเกิดความขัดแย้งกันเองในกองทัพจนมีการรัฐประหารซ้อน แต่ข้อนี้ดูจะเป็นไปได้ยากแล้วในขณะนี้