ไม่พบผลการค้นหา
หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจ ม.44 เด้ง 'สมชัย ศรีสุทธิยากร' พ้นเก้าอี้กกต. มีผลทันทีวันนี้ (20มี.ค.) ชี้เหตุถูกเด้งให้สัมภาษณ์สื่อไม่เหมาะสม สมัครเลขาฯ กกต. ส่อขัดกันแห่งผลประโยชน์ไม่ยอมลาออก กกต. ส่วน กกต.อีก 4 คนให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่จนกว่ามี กกต.ชุดใหม่

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 4/2561 เรื่องให้กรรมการการเลือกตั้งยุติการอยู่ปฏิบัติหน้าที่ ลงนาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 มีคำสั่งให้ให้นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ยุติการยุติการอยู่ปฏิบัติหน้าที่กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่วันที่คําสั่งนี้ใช้บังคับ (วันที่ 20 มี.ค.) เป็นต้นไป

ส่วนในกรณีที่ผู้ซึ่งอยู่ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการการเลือกตั้งหรือกรรมการการเลือกตั้งตามมาตรา 70 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 มีอายุครบ 70 ปี ให้ผู้นั้นยังคงอยู่ในตําแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวต่อไปจนกว่าประธานกรรมการการเลือกตั้งและกรรมการการเลือกตั้งที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่

สำหรับการออกคำสั่งดังกล่าวสืบเนื่องจากนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง ได้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในกรณี การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงความเห็นของตนเกี่ยวกับกระบวนการและกําหนดการการเลือกตั้งด้วยถ้อยคําที่ไม่สมควรในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความสับสน อันจะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งและการจัดการการเลือกตั้งให้สําเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทั้งได้ปรากฏข้อเท็จจริงด้วยว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ได้สมัครเข้ารับการคัดเลือกให้ดํารงตําแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยไม่ได้ลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่กรรมการการเลือกตั้งเสียก่อนซึ่งถือเป็นการกระทําที่เข้าข่ายเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์

ซึ่งก่อนหน้านี้ นายสมชัย ได้ให้สัมภาษณ์ล่าสุดผ่าน เว็บไซต์ the 101 โดยระบุตอนหนึ่งถึงการเซ็ตซีโร่ กกต.ชุดปัจจุบัน ว่า การเซ็ตซีโร่ทำให้ทุกอย่างหยุดนิ่ง และไม่มีใครตั้งใจทำงาน เนื่องจากทุกคนเตรียมตัวหยุดงานหมดแล้ว ดังนั้นการเซ็ตซีโร่คือการตัดสินใจที่ผิดพลาด ซึ่งจริงๆแล้วอาจมีความต้องการให้ตนออกคนเดียว แต่ไม่รู้จะเอาออกอย่างไร เพราะไม่มีใครสั่งตนได้ และหลายคนอยากให้เงียบ ๆ

ในขณะที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กล่าวถึงการออกคำสั่งปลดออกจากการทำหน้าที่กกต. ว่าเป็นดุลพินิจของผู้มีอำนาจ ที่คิดว่าเหมาะสมก็ให้ดำเนินการไป โดยยืนยันว่าการให้สัมภาษณ์ที่ผ่านมาอยู่บนพื้นฐาน การรักษาผลประโยชน์บ้านเมืองไม่ได้มุ่งเอาใจใคร และการสมัครเลขา กกต.ก็เป็นเพราะมีคุณสมบัติที่จะสมัครได้ โดยเชื่อว่า กกต. ชุดปัจจุบันคงไม่กล้าเลือกตนเป็นเลขาธิการ กกต. เพราะรู้ดีว่าหากตนได้เป็นเลขาธิการ กกต. อาจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อ ความต้องการ ของผู้มีอำนาจในบ้านเมืองได้ ทั้งนี้เมื่อพ้นตำแหน่งแล้วก็จะหาแนวทางอื่นในการทำประโยชน์ให้บ้านเมืองต่อไป

นายสมชัย กล่าวว่า ขอเวลา 2-3 วันในการเก็บของ คิดว่าสำนักงาน กกต.คงไม่ใจร้ายให้เก็บของให้เสร็จภายในวันนี้ และเดิมที่จะไปร่วมสัมมนาเตรียมงานการเลือกตั้งของสำนักงานในวันพรุ่งนี้ก็คงไม่ได้ไปแล้วเพราะไม่มีหน้าที่แล้ว ส่วนการประชุมพรรคการเมืองเก่าในวันที่ 28 มีนาคม ซึ่งมีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมจึงได้ยกเลิกการเดินทางไปต่างประเทศนั้นก็คงไม่ได้ไปร่วมยกเว้นจะไปร่วมในฐานะตัวแทนพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง 


"ผมไม่รู้สึกเสียใจต่อคำสั่งที่ออกมา โดยก่อนหน้านี้ ก็พยายามหาทางที่จะออกจากตำแหน่งอยู่แล้วและรู้ว่าตัวเองสุ่มเสี่ยงมาโดยตลอดกับการที่จะถูก คสช.ปลด เพราะ ให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่ไม่ถูกใจใครแต่ถือว่าทำตามหน้าที่ ซึ่งอาจมีคนเห็นว่าไปขัดผลประโยชน์ จนทนไม่ได้ แต่การเป็นกกต.ก็มีหน้าที่ชี้ว่าสิ่งใดถูกและสิ่งใดผิด" นายสมชัย กล่าว

อ่านเพิ่มเติม