ไม่พบผลการค้นหา
เปิดใจคนไทยที่เดินทางกลับมาถึงสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 3 เม.ย. เล่าความจริงอีกด้าน พร้อมถูกกักตัว แต่ไม่ทราบข้อมูลจริงจากเจ้าหน้าที่ที่มารอรับ โอดรัฐบาลเปลี่ยนมาตรการกระทันหัน รู้ตัวอีกทีคือถูกส่งไปที่สัตหีบ

ผู้โดยสารชาวไทยที่เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวานนี้ (3 เม.ย. 2563) ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว 'วอยซ์ออนไลน์' ทางโซเชียลมีเดีย โดยไม่ประสงค์จะออกนามว่า ตนเดินทางจากนิวยอร์กในวันที่ 1 เม.ย. 2563 เวลาประมาณ 21.00 น. โดยก่อนออกเดินทางได้รับแจ้งมาตรการในการเดินทางกลับเข้าประเทศไทยว่า คนที่ประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศต้องมี 3 อย่าง ได้แก่ 1.ใบรับรองแพทย์ Fit to Travel ซึ่งหายากมาก ณ ช่วงเวลาแบบนี้ 2. ตั๋วเครื่องบิน และ 3. นำเอกสารสองอย่างนี้ไปขอรับจากสถานทูตว่าต้องการเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งช่วงเวลาที่กลุ่มของตนเดินทางเป็นเวลารอยต่อระหว่างการประกาศมาตรการชะลอการเดินทางเข้าประเทศ

อย่างไรก็ตาม ตอนแรกตามมาตรการเดิม ตนได้เตรียมเอกสารมาครบ ก็จะได้เดินทางกลับ และกักตัวที่บ้าน โดยแจ้งที่อยู่กับเจ้าหน้าที่เพื่อให้ไปสุ่มตรวจเช็คที่บ้าน

แต่ขณะมารอเปลี่ยนเครื่องที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ 11 ชั่วโมง ตนก็ได้รับทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงและรัฐบาลไทยออกมาตรการชะลอการเดินทางเข้าประเทศไทยของทั้งคนไทยและต่างชาติ มีผลตั้งแต่วันที่ 2-15 เม.ย.

ขณที่ในมาตรการบอกไว้ว่าสำหรับผู้ที่ขอเอกสารจากสถานทูตได้แล้ว สามารถเดินทางกลับได้ แต่เมื่อถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่สนามบินก็พากลุ่มผู้โดยสารไปกักตัวไว้ที่สถานีดับเพลิง โดยเจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไร จนกระทั่งมีคนโวยวาย เจ้าหน้าที่เลยบอกว่า ใครอยู่กรุงเทพฯ ให้ญาติมารอรับได้เลย แต่เมื่อถามเจ้าหน้าที่ว่าจะทำอะไรบ้าง กลับไม่มีใครตอบอะไรได้

กระทั่งเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ให้เก็บกระเป๋าขึ้นรถไปตรวจโรคแล้วจะให้กลับบ้านได้ พร้อมแจ้งว่าโทรให้ญาติมารับได้เลย โดยเรียกชื่อทีละคน แต่พอทุกคนขึ้นรถ เจ้าหน้าที่ก็ประกาศว่าจะพาทุกคนไปกักตัวที่ชลบุรี หลายคนก็โวยวายเพราะเหมือนโดนหลอกให้ความหวัง

สุวรรณภูมิ.jpg
  • เจ้าหน้าที่สนามบินพากลุ่มผู้โดยสารมารอที่สถานีดับเพลิงในช่วงบ่ายวันที่ 3 เม.ย.

อย่างไรก็ตาม เมื่อไปถึงสถานที่กักตัวที่ฐานทัพเรือสัตหีบ เจ้าหน้าที่ที่นั่นใจเย็น และใจดี ตอบทุกคำถาม และมีความเป็นมืออาชีพต่างจากที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีห้องพักที่ดี พร้อมอาหารให้ครบทุกมื้อ และให้ญาติเข้าเยี่ยมได้ แต่เนื่องจากคนมีจำนวนมากกว่าห้องหรือไม่ ตนไม่แน่ใจ เจ้าหน้าที่จึงให้พักห้องละ 3 คน โดยต้องได้รับความยินยอมจากผู้ที่เข้าพัก และแบ่งตามกลุ่มประเทศ แต่ก็มีกลุ่มคนส่วนหนึ่งที่ไม่พอใจและไม่ยอมขึ้นห้องพัก จนเจ้าหน้าที่นำกลับมาส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากหลายคนคาดหวังจะกักตัวที่บ้าน โดยไม่มีใครรู้ความจริงก่อน จึงไม่อยากมาที่นี่ เพราะก่อนเดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา ตามมาตรการคือเขาให้กักที่บ้าน ไม่ได้มีข่าวว่าให้มากักตัวที่ไหน

"กลุ่มที่ลงเครื่องเวลาประมาณ 20.00 น. และกลับบ้านไปก่อนขณะอยู่ที่สนามบิน เราไม่ทราบเรื่องนี้และไม่เกี่ยวข้องกัน" ผู้โดยสารคนดังกล่าวเล่า

ทั้งนี้ บุคคลดังกล่าวยังได้เปิดเผยความรู้สึกกับทีมข่าวว่า แม้ว่าการกักตัวโดยให้เข้าพักห้องละ 3 คนอาจะไม่ถูกต้องและเสี่ยงหากมีผู้ได้รับเชื้อพักอยู่ในห้องเดียวกัน แต่สิ่งที่รู้สึกไม่ดีคือเจ้าหน้าที่ไม่พูดความจริงก่อนพาไปกักตัว เหมือนหลอกลวงกัน

"แต่สิ่งที่ไม่โอเคคือตอนมาสนามบิน เจ้าหน้าที่ไม่บอกอะไรเลย ถามก็ไม่ตอบว่าจะพาไปไหน เจ้าหน้าที่บอกว่าจะได้กลับบ้าน แต่ให้ขึ้นรถ เรียกญาติมารับได้เลย สุดท้ายอ้างว่าจะพาไปตรวจ แล้วจะปล่อยกลับบ้าน แต่ไม่บอกว่าที่ไหน พอมาโผล่ที่สัตหีบ ก็เลยรู้สึกว่าทำไมไม่บอกตรงๆ ตั้งแต่แรก หลอกกันทำไม เพราะโตกันแล้ว และเข้าใจว่าต้องกักตัว แค่มาถึงไทยก็ดีใจแล้ว จะให้ไปไหนก็บอกกันตรงๆ ซึ่งตนเข้าใจเข้าใจว่าคนไทยหลายกลุ่มไม่ได้เข้าใจสถานการณ์ของเราเลย"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :