ไม่พบผลการค้นหา
'จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์' แนะนายกฯ เปลี่ยนทีมเศรษฐกิจ อัดเยียวยาล่าช้า ไม่ครอบคลุม ไม่โปร่งใส หยุดทวงบุญคุณช่วยเหลือประชาชน 'ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม' จี้รัฐบาลเปิดทางท้องถิ่นเป็นคนคิดโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวว่านอกจากความท้าทายของรัฐบาลในการบริหารจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว ยังเป็นความท้าทายของสภาผู้แทนราษฎรที่จะทำการตรวจสอบ การใช้เงินของรัฐบาลว่ามีประสิทธิภาพ รวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ความเดือดร้อนของประชาชนหรือไม่ เพราะประชาชนและระบบเศรษฐกิจคือผู้ที่แบกรับต้นทุนในการใช้อำนาจทางกฎหมายและนโยบายปิดเมืองของรัฐบาล และในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาก็เห็นการบริหารของรัฐบาลมาแล้ว

โดยเฉพาะเรื่องของการเยียวยาประชาชน ที่มีความล่าช้า ผิดพลาด และไม่มีประสิทธิภาพจากการใช้ระบบ AI (ปัญญาประดิษฐ์) ไม่สมกับที่รัฐบาลประกาศไว้ว่าเป็นรัฐบาลดิจิทัล 4.0 สะท้อนให้เห็นการบริหารงานของรัฐบาล ที่มีความล่าช้าไม่ครอบคลุม ไม่รัดกุมและไม่โปร่งใส วันนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 กับตัวเลขคนฆ่าตัวตายจากพิษเศรษฐกิจ และไม่ได้รับการเยียวยา มีตัวเลขใกล้เคียงกัน ดังนั้น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากไม่จำเป็นก็ควรที่จะมีการยกเลิก เพราะวันนี้สิ่งที่รัฐบาลทำไม่ใช่สุขภาพนำเสรีภาพ แต่วันนี้เป็นความมั่นคงทางการเมืองนำสุขภาพ และเศรษฐกิจ 

นายจิรวัฒน์ ยังกล่าวด้วยว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีควรรีบเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจ เฉพาะในส่วนของกระทรวงการคลังแล้วจะทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลดีขึ้น หรือจะให้ดีกว่านี้ควรเป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชน เป็นกติกาที่ถูกต้องและมีความเป็นมืออาชีพในการบริหารงานมากกว่านี้ การได้รับเงินเยียวยาประชาชนไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่ารัฐบาลมีบุญคุณ เพราะเป็นเงินภาษีของประชาชนทุกคน และเงินของประชาชนที่รัฐบาลนำไปบริหาร มีความล่าช้าไม่รวดเร็วไม่ทันต่อสถานการณ์ที่ประชาชนลำบาก

'ครูมานิตย์' ชี้เศรษฐกิจแย่ ก่อนจะเกิดวิกฤตโควิด อัดคลังทำงานล่าช้า

ประชุมสภา28_๒๐๐๕๒๘_0010.jpg

ด้านนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีรัฐบาลจัดให้มีการเรียนออนไลน์ ทั้งที่นักเรียนหลายคนยังมีความไม่พร้อมของเครื่องมือ-อุปกรณ์การเรียน ทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือเรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ไม่เสถียร ทั้งนี้ นายครูมานิตย์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลอย่าโยงไปให้โควิด-19 เป็นผู้ร้ายเพียงอย่างเดียว เพราะความเป็นจริงประเทศมันมีปัญหาความตกต่ำทางเศรษฐกิจมาก่อนแล้ว ทั้งเรื่องพืชผลการเกษตรตกต่อ อาทิ ราคายางพารา เป็นต้น

ทั้งนี้ เห็นใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะที่ผ่านมาก็มีปัญหาทั้งเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องแฟลชม็อบ และโควิด-19 แพร่ระบาดตามมา ก็คงหาทางออกไม่ได้ ช่วงก่อนหน้าถึงกับผ่ายผอมลงไปมาก นจนตัดสินใจ ใช้ยาแรงประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ขณะที่กระทรวงการคลังก็ทำงานช้ามากในการจ่ายเงินเยียวยาประชาชน ตนคิดว่าท่านป็นมหาอุด เพราะท่านชื่ออุตตม เลยจ่ายเงินเยียวยาช้า อย่างเรื่อง AI นี่ก็แย่ แต่โยนให้เป็นความผิดคนอื่นหมด อย่างเป็นความผิดรัฐบาลที่แล้ว วันนี้ขอชื่นชมคนเป็นหมอและบุคลากรทางการแพทย์ที่สามารถทำงานจนเห็นผลในวันนี้ และพี่น้องประชาชนที่ร่วมมือ ไม่ใช่ผลงานรัฐบาล ตอนนี้การทำงานก็ไปอยู่ที่ปลัดกระทรวง ท่านรัฐมนตรีก็ตกงานกันหมด เพราะงานไปอยู่ที่ปลัดกระทรวงหมด

ครูมานิตย์ กล่าวต่อว่า ตนขอเสนอให้ท้องถิ่นเป็นคนคิดโครงการเศรษฐกิจขึ้นมา ไม่ใช่ให้ส่วนบนที่คุมนโยบายคิดลงไป เพราะมันจะกลายเป็นทฤษฎีไอติม ที่กว่าจะลงไปถึงประชาชนก็เหลือแต่ไม้ไอติม รอยน้ำหวานก็ไม่เหลือ ดังนั้นจึงต้องให้ท้องถิ่นคิดโครงการขึ้นมา ทั้งเรื่องน้ำ เรื่องพืช วันนี้ผมมาอภิปรายเรื่อง พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้าน แต่ในความคิด พ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้าน ที่ประชาชนคนไทยต้องมาใช้หนี้อีกในอนาคตอีกยาวนาน แต่ยังเห็นด้วย สนับสนุนให้กู้เงินออกมาเพื่อเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจประชาชน

"หาก "ลุงตู่" อยากอยู่ 20 ปี "ลุงตู่" อาจโชคดี ถ้าบริหารประเทศได้ดี แต่หากบริหารไม่ได้ ก็คิดเอานะครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น" นายครูมานิตย์ กล่าว

อ่านเพิ่มเติม