ไม่พบผลการค้นหา
สปสช.แถลงยกเลิกคลินิกอบอุ่นใน กทม.อีก 66 แห่ง คาดมีประชาชนได้รับผลกระทบ 800,000 คน เตรียมหาหน่วยบริการรองรับ เน้น 3 กลุ่มก่อน ส่วนกลุ่มคนทั่วไปรับบริการในสถานพยาบาล ที่เข้าร่วมกับ สปสช.

นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานส่งเสริมหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช.แถลงความคืบหน้ากรณีทุจริตคลินิกสวมสิทธิบัตรทอง ว่า ขณะนี้จากการตรวจคลินิกเพิ่มเติม พบมีคลินิก 66 แห่ง ส่อทุจริต ทำผิดสัญญาและมีการสวมสิทธิประชาชน ทำให้ต้องยกเลิกสัญญาและปิดหน่วยบริการ ซึ่งจะมีประชาชนได้รับผลกระทบ 800,000 คน ความผิดนี้แม้จะเล็กน้อย แต่ระยะยาวกระทบต่อประชาชนแน่นอน เพราะการสวมสิทธิเข้ารับบริการทำให้ประชาชนไม่ได้รับการตรวจคัดกรองเบาหวาน ความดันโลหิต และยังมีผลต่อองค์กรเรื่องงบประมาณการเบิกจ่าย

ส่วนการแก้ไขปัญหาประชาชนถูกยกเลิกบริการนี้ ระหว่างนี้สามารถไปรับบริการที่ไหนก็ได้ทุกแห่งใน กทม.ทั้งรัฐและเอกชนที่ร่วมกับ สปสช.โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันประสาน กทม.เร่งจัดหาหน่วยบริการทดแทน โดย สปสช.และ กทม.ได้รวบรมรายชื่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบ 800,000 คน ไว้เรียบร้อย อยู่ระหว่างการติดต่อเพื่อขึ้นทะเบียนและจัดหาหน่วยบริการใหม่ให้

หากประชาชนสงสัยสอบถามได้ที่หมายเลข 1330 หรือ @ LINE 1330_2 ส่วนการหาผู้ประกอบการรายใหม่มาทดแทนนั้น คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลและเชิญชวนผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาเป็นหน่วยบริการ

ด้าน ทพ.อรรถพร กล่าวว่า สำหรับคลินิกที่พบทุจริตจำนวน 66 แห่งนี้ แบ่งเป็นคลินิกเวชกรรม 53 แห่ง คลินิกทันตกรรม 3 แห่ง และ รพ.10 แห่ง ก่อนหน้านั้นมีคลินิกที่ถูกยกเลิกไปแล้ว 18 แห่ง รวม 84 แห่ง ขณะเดียวอยู่ระหว่างการตรวจสอบในคลินิก 107 แห่ง ว่าจะมีความผิดหรือปิดหน่วยบริการหรือไม่

กลุ่มผู้ป่วยที่มีความสำคัญเร่งด่วนในการจัดหน่วยบริการ เน้นใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.ผู้ป่วยในที่นัดผ่าตัด ซึ่งตรงนี้ทาง รพ.กทม.รับไปดูแลแล้ว 2.กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ มีหน่วยบริการของ กทม.เข้าไปดูแลเช่นกัน และ 3.ผู้ป่วยฟอกไต ซึ่งถือเป็นความจำเป็นเร่งด่วน โดยสปสช.ส่งรายชื่อให้กับ กทม.ร่วมดูแลแล้ว หากไม่รับการติดต่อ ขอให้ติดต่อมาที่หมายเลข 1330

ทั้งนี้ หากรวมคลินิกที่ถูกยกเลิกสัญญา รวม 84 แห่ง คาดมีประชาชนได้รับผลกระทบเกือบ 1 ล้านคน