ไม่พบผลการค้นหา
"เรืองไกร" ไม่หวั่น ถูกฟ้องกลับ หวัง ศาลฯ พิจารณาตามบรรทัดฐานเดียวกันกับกรณียุบ "พรรคไทยรักษาชาติ" ระบุ ถ้าตนอยู่ใน "กลุ่ม 4 กุมาร" ก็คงลาออก แนะ ตั้งพรรคใหม่ ถ้ายังอยากทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ

วันนี้ 9 ก.ค. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ร้องยุบพรรคพลังประชารัฐ สืบเนื่องกรณีวันที่ 22 มิ.ย. 2563 มีการปรากฏภาพกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐหลายคน ไปเทียบเชิญ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้มาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐคนใหม่ โดยภาพที่ปรากฏเป็นการใช้สถานที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ซึ่งตนได้ไปหาข้อมูล ก็พบว่ามูลนิธิดังกล่าวระบุชัดในราชกิจจาฯ ข้อ 2.7 ว่าไม่ดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และผู้ที่ไปชัดเจนว่าหลายคนเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องทางการเมือง ด้านกรรมการบริหารพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าเป็นพื้นที่ของมูลนิธิดังกล่าวจริง สอดคล้องกับภาพที่ พล.อ.ประวิตร จับมือกับคณะกรรมการบริหารพรรคชัดเจน

นายเรืองไกร บอกว่า การยื่นหนังสือในกรณีนี้ สามารถเทียบเคียงได้กับกรณียื่นศาลรัฐธรรมนูญ ให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง(2) ที่ระบุว่าอาจเข้าข่ายเป็นกระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ดังนั้น กกต.สามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญได้ตามที่มีตัวอย่างข้างต้นโดยใช้บรรทัดฐานเดียวกัน กับคำวินิจฉัยของพรรคไทยรักษาชาติ เกี่ยวกับการเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อีกทั้งคณะกรรมการที่รักษาการตามที่ปรากฏทั้ง 34 คน ก็ควรจะถูกวินิจฉัยว่าจะถูกตัดสิทธิด้วยหรือไม่เช่นกัน

ทั้งนี้นายเรืองไกร ยังได้บอกถึงกรณีที่เวลา 12.00 น. วันนี้ "กลุ่ม 4 กุมาร" จะแถลงลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐว่า ควรจะออก เพราะคนที่ก่อตั้งพรรคมา ยอมสละตำแหน่งรัฐมนตรีมาทำกิจกรรมทางการเมืองทั้ง 4 คนนี้ ตามจริงก็ไม่มีสิทธิสมัครเป็นผู้แทน แต่มาทำจนพรรคได้เสียงข้างมากรองจากพรรคเพื่อไทยได้ แต่พอเกิดปัญหาแบบนี้ ถ้าเป็นตนก็คงอยู่ไม่ได้ แต่เหตุจากปัญหาภายในตนไม่อาจก้าวล่วง แต่ถ้ายังเห็นว่าส่วนตัวมีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ก็ให้ไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง