ไม่พบผลการค้นหา
ส.ส.เสรีรวมไทยลงพื้นที่แจกถุงยังชีพ-ฟ้าทะลายโจร อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เผยประชาชนจวกรัฐบาลแจกเงินเยียวยาล่าช้า หลักเกณฑ์ยุ่งยากไม่ทั่วถึง หวังผ่อนคลายล็อกดาวน์ให้คนทำมาหากิน

เมื่่อวันที่ 23 เม.ย. น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทยพร้อมทีมงาน ลงพื้นที่ย่านชุมชนหลังวัดกิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อแจกอาหารพร้อมถุงยังชีพให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 

โดย น.ส.นภาพร ได้นำต้นฟ้าทะลายโจรจำนวนหลายร้อยต้นบรรจุใส่กระถางไปแจกจ่ายให้ประชาชนนำไปปลูกที่บ้านเพื่อเตรียมไว้ดูแลตนเองด้วย เนื่องจากในทางการแพทย์ระบุว่าต้นฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสโควิด-19 ได้ เพราะครั้งที่ไข้หวัด H5N1 ระบาด ก็เคยทำแจกประชาชนมาแล้ว พร้อมแนะนำการกินฟ้าทะลายโจรไม่ใช่เพื่อป้องกัน แต่หากเริ่มมีอาการตัวรุมๆ เริ่มไอ ก็ทานเลยไม่ควรเกิน 3 วัน หากไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์ทันที

นภาพร เสรีรวมไทย 2-DCFF-46A6-9872-FBEAB66A0A14.jpeg

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.นภาพร ได้รับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชน ซึ่งพบว่า ส่วนใหญ่ยังคงไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทจากรัฐบาล เนื่องจากหลักเกณฑ์ที่ยุ่งยาก เยียวยาล่าช้าไม่ทั่วถึง รวมทั้งความไม่เข้าใจของประชาชนในการลงทะเบียนตั้งแต่ต้น ทำให้หลายคนยังไม่แน่ใจว่า ถึงที่สุดแล้วตัวเองจะได้รับเงินช่วยเหลือหรือไม่

“ส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตั้งแต่มีมาตรการล็อกดาวน์มาเกือบ 1 เดือน พวกเขาแทบไม่มีรายได้มาจุนเจือครอบครัวเลย เพราะส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างรายวันหรือลูกจ้างที่ร้านถูกสั่งปิด จึงมีความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากแต่ละคนแทบไม่มีเงินเก็บออมเอาไว้ใช้ เพราะเศรษฐกิจก่อนหน้านั้นก็ชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่แล้ว ดังนั้นจึงคอยความหวังจากรัฐบาลเพียงอย่างเดียว แต่การแจกเงินก็ล่าช้า จนชาวบ้านรู้สึกเครียดเพราะไม่มีอะไรจะกินหรือไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน ตอนนี้ทุกคนจึงหวังเพียงแต่ว่า รัฐบาลจะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ให้ชาวบ้านทำมาหากินได้บ้างในบางอาชีพที่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสได้ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ก็เข้าใจถึงความจำเป็นในการป้องกันตัวเองไม่ให้ส่งผลกระทบต่อส่วนรวม” น.ส.นภาพร กล่าว

น.ส.นภาพร ระบุว่า ที่โฆษก ศบค.พูดว่าต้องปลอดภัยจากโควิด-19 ไว้ก่อน ว่าเงินทองไว้หาใหม่ได้นั้น ก็ไม่ผิด แต่ต้องไม่ลืมว่า แต่ละคนมีต้นทุนชีวิตไม่เท่ากัน ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีเงินเก็บออมในธนาคาร หากจะให้พวกเขาอยู่แต่ในบ้านโดยไม่มีเงินซื้ออาหารเป็นเดือนๆ ก็คงจะอดตายกันหมด ดังนั้น การปลดล็อกอย่างปลอดภัย เพื่อให้ทำมาหากินได้บ้างจึงเป็นสิ่งจำเป็น นอกจากจะห่วงเรื่องตัวเลขคนติดเชื้อแล้ว รัฐบาลควรห่วงตัวเลขคนฆ่าตัวตายรายวันประกอบกันด้วย เพราะตอนนี้เกิดขึ้นเป็นรายวัน จนแทบจะกลายเป็นสิ่งปกติในยุคนี้ไปแล้ว