ไม่พบผลการค้นหา
ประธาน ป.ป.ช. ยันปัดเร่งคดีสอย 'ชัชชาติ' พ้นแคนดิเดตนายกฯของ 'เพื่อไทย' ย้ำระวังไม่เป็นเครื่องมือให้ฝ่ายใดในช่วงเลือกตั้ง ขณะที่นายกฯ ระบุรัฐบาลไม่ได้อยู่เบื้องหลังปัดฝุ่นคดีดังกล่าว ด้าน เลขาธิการพรรคเพื่อไทยย้ำคดีจัดการน้ำไม่มีความผิด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ระบุกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมรื้อคดีที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ถูกตั้งข้อกล่าวหาในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองปี 2548 - 2553 และข้อหาปฏฺิบัติหน้าที่โดยมิชอบในโครงการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2555 วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท โดย พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามสื่อมวลชนว่า นิยมความขัดแย้งหรือไม่ ทำไมสื่อจะต้องสร้างกระแสนิยมในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งเป็นอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะหยิบยกเอาคดีใดๆ ขึ้นมาตรวจสอบ ยืนยันรัฐบาลไม่ได้อยู่เบื้องหลังหรือสั่งการใดๆทั้งสิ้น

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุว่า จากการติดตามพบว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะนำคดีเรื่องบริหารจัดการน้ำกลับขึ้นมาดำเนินการอีกครั้ง ทั้งที่เรื่องดังกล่าวได้ข้อยุติชัดเจนแล้วว่ากระบวนการดังกล่าวไม่มีความผิดใดๆ พร้อมตั้งข้อสังเกตุว่าเหตุใดจึงดองคดีไว้และเพิ่งหยิบยกขึ้นมาในช่วงการเลือกตั้ง

"ไม่อยากให้รัฐบาลหรือผู้มีอำนาจดำเนินการในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดว่า รัฐไล่จัดการกับคนเห็นต่างเพราะจะไม่เป็นผลดีกับรัฐบาล ภาพลักษณ์ของประเทศ และการเลือกตั้ง ว่าใช้อำนาจรัฐเข้ามาจัดการกับฝ่ายตรงข้าม จึงเรียกร้องให้รัฐหลีกเลี่ยงการใช้อำนาจที่ทำให้เกิดความไม่เข้าใจ หากรัฐบาลมั่นใจในผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ ขอให้ดำเนินการจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว" เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุ

ขณะที่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ป.ป.ช. รื้อคดีบริหารจัดการน้ำ และเยียวยาม็อบ เพื่อสกัดนายชัชชาติ ขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย ว่า ตนไม่ทราบเรื่องว่ามีการเร่งคดีนายชัชชาติ ไม่มีแน่ เพราะทุกเรื่องที่จะถูกบรรจุวาระการประชุมกรรมการป.ป.ช.นั้นจะต้องผ่านประธานกรรมการ ป.ป.ช.ก่อน ยืนยัน ป.ป.ช.ทำงานอยู่ต้องระมัดระวังอย่างมากในเรื่องแบบนี้ ถ้าบอกว่า ป.ป.ช.เป็นเครื่องมือของใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ยิ่งต้องระวัง ดังนั้น ไมมีการเร่งคดีในช่วงก่อนการเลือกตั้ง

ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการรวบรวมดังนั้นเมื่อดำเนินการไปแล้วกรรมการก็จะมาพิจารณาวินิจฉัย หากพยานหลักฐาน ยังไม่ครบถ้วนกรรมการก็จะสั่งให้ไปไต่สวนเพิ่มเติม ซึ่งกระบวนการทำงานของป.ป.ช.ไม่เหมือนกับกระบวนการกล่าวหาตาม ป.วิอาญา แต่เป็นการแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมให้สมบูรณ์

“ดังนั้นวันนี้ไม่ว่าใครจะพูดอะไรโดยที่เขาไม่รู้ในรายละเอียดก็เป็นการคาดเดาของเขา แต่ข้อเท็จจริงนั้นจะต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายใหม่ของป.ป.ช. การจะเข้าสู่ข้อมูลข่าวสารในการดำเนินการของป.ป.ช. ถือเป็นความลับ และมีขั้นตอนซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เมื่อวินิจฉัยแล้ว ก็สามารถขอดูได้จากรายงานการประชุมหรือคำวินิจฉัยซึ่งตรงนั้นจะเป็นหลักฐานยืนยันการพิจารณาของคณะกรรมการป.ป.ช." ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ระบุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง