ไม่พบผลการค้นหา
‘ฟิล์ม รัฐภูมิ’ ซบอกเพื่อไทยสมัครสมาชิกพรรคตลอดชีพ เผยเหตุออกจากพรรครวมพลังท้องถิ่นไท เพราะอุดมการณ์ไม่ตรงกัน ยืนยันจุดยืนไม่เคยเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ย้ำ อยากทำงานเพื่อประชาชน

นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ (ฟิล์ม) อดีตรองโฆษกพรรคพลังท้องถิ่นไท พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ ชัยจินดาวัฒน์ อดีตเลขาธิการพรรคภาคีเครือข่ายไทย และ นายณัฐพงษ์ รอบคอบ อดีตสมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไทย เดินทางเข้าสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยมี โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค , นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการ , นายสุรชาติ เทียนทอง รอง เลขาธิการ , น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล รองเลขาธิการ , นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้ากลุ่มเพื่อไทยพลัส ให้การต้อนรับ

คุณหญิงสุดารัตน์ ได้กล่าวต้อนรับ และขอบคุณทั้ง 3 คน ที่เห็นว่าพรรคเพื่อไทย เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ซึ่งฟิล์มและคณะจะได้ใช้แนวคิดที่อยากจะพัฒนาชาติบ้านเมืองผ่านทางพรรคเพื่อไทย ซึ่งนอกจากด้านมีเดียแล้ว ฟิล์มและสมาชิกยัง มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง ที่เป็นหนทางในการทำมาหากินในอนาคต

ดังนั้น ความสามารถเหล่านี้จะเข้ามาเติมพลังนโยบายการทำงานของพรรคเพื่อไทย พร้อมทั้งร่วมกับพรรคในการเชื่อมพื้นฐานที่แข็งแกร่งของโลกไปสู่อนาคต และขอให้ผนึกกำลังทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ พรรคเพื่อไทย ไม่ได้มองฟิล์ม ในด้านการสื่อสารอย่างเดียว เพราะจากการคุยกัน ได้รู้ว่าฟิล์ม มีความคิดตรงกัน ว่า การเป็นบุคคลสาธารณะของฟิล์ม ได้เห็นความเหลื่อมล้ำของคนทั้งประเทศ และด้วยอาชีพที่เป็นศิลปินมาก่อน เป็นอาชีพที่คล้ายกับนักการเมือง คือ มีหัวใจคือประชาชน 


ฟิล์ม-เพื่อไทบ 04.jpg


ขณะที่ฟิล์ม รัฐภูมิ เปิดเผย อุดมการณ์ของตนเองคือการเห็นประเทศไทยพัฒนาขึ้น ครั้งหนึ่งเคยได้เข้าไปอยู่พรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ได้เจอตัวตนของตัวเอง และได้เจอการแก้ไขปัญหาประเทศชาติที่แท้จริง การเป็นสื่อเล็กๆ ในโซเชี่ยล ไม่สาทารถแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนได้ อุดมการณ์ที่เสนอไม่ได้ประสบความสำเร็จได้ง่ายๆ ซึ่งกลับมามองว่า พรรคการเมืองใดที่มีระบบการแก้ปัญหาที่แท้จริง ทำให้เจอบ้านใหม่ ที่เป็นมืออาชีพของจริง ไม่ได้ใช้เวลานานในการคิด เพราะพรรคเพื่อไทย มีข้อดีในการบริหารงาน 3 รุ่น นโยบายใดที่ดีอยู่แล้ว ก็ส่งเสริมให้ดีขึ้นไป ส่วนอะไรใหม่ๆ ก็เปิดรับและพัฒนาให้เท่าเทียม

พร้อมยังยอมรับว่า ก่อนหน้านี้กังวล เกี่ยวกับอาชีพ ชื่อเสียงด้านการเเสดง แต่ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ ได้เห็นความเหลื่อมล้ำของประชาชนทั้งประเทศ จึงมองว่า วันนี้ หมดยุคแบ่งข้าง แบ่งฝ่าย เพราะทุกคนรอแค่ว่าจะมีพรรคไหนที่จะเข้ามาแก้ปัญหา ได้เร็ว และทำได้จริง ขณะนี้จึงไม่มีความกังวล ว่า การเข้ามาอนู่พรรคเพื่อไทย จะถูกหยิบยกไปเกี่ยวโยงกับเรื่องอื่นๆ 

ฟิล์ม ยังยืนยันว่าจุดยืนของตนเองนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปมา เพราะจุดยืนคือ การแสวงหาประโยชน์ให้กับประชาชนคนไทย เพราะสำนึกอยู่ตลอดคือประชาชนที่สนับสนุนทำให้ตนเองมีทุกวันนี้ ซึ่งมองว่าไม่จำเป็นว่าการเข้าสู่การเมืองต้องอยู่ในพรรคใหญ่ แต่อยากสื่อสารว่าคนรุ่นใหม่ไม่ต้องกลัวการเมือง  

ส่วนพรรครวมพลังท้องถิ่นไทนั้น ส่วนตัวยังเคารพและรักผู้บริหารพรรคทุกคน ยังเป็นครอบครัวเหมือนเดิม แต่เนื่องจากอุดมการณ์ไม่ตรงกัน ซึ่งที่ผ่านมาตนเองได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และวันนี้ต้องแสดงจุดยืนชัดเจน โดยเฉพาะจุดยืนด้านประชาธิปไตย


ฟิล์ม-เพื่อไทย 03.jpg