ไม่พบผลการค้นหา
“วิษณุ” เล่าความรู้พระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่คนไทยต้องทราบ ชี้เป็นพิธีที่ป่าวประกาศให้เทวดาได้รับรู้ ชวนคนไทยติดตามช่วง 2 ชั่วโมงสำคัญของเช้าวันที่ 4 พ.ค.

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษเรื่อง พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ความรู้ที่ปวงชนชาวไทยควรทราบ จัดโดยสมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้า ร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า ตอนหนึ่งว่า การเตรียมพระราชพิธีฯสำเร็จลุล่วงไปแล้วร้อยละ 80-90 ซึ่งพระราชพิธีนี้ถือเป็นหนึ่งในสองพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุด นอกจากเหนือจากพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ 

โดยเหตุที่พระราชพิธีทั้งสองมีความสำคัญ เพราะเกิดขึ้นได้ยาก ต้องอาศัยเหตุ อาศัยฤกษ์ และต้องจัดให้ยิ่งใหญ่ตามโบราณราชประเพณี ซึ่งในอดีตมีบางรัชกาลไม่ได้จัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก อย่างในรัชกาลที่8 หรือในรัชกาลที่ 1 ที่จัดแต่จัดพระราชพิธีฯแต่พอสังเขปเท่านั้น

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษกได้รับอิทธิพลมาจากประเทศอินเดีย เป็นพิธีตามคตินิยมทางพราหมณ์ ซึ่งมีการจัดทำตำราพระราชพิธีบรมราชาภิเษกมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่1 หัวใจคือการดึงเทพเจ้า เทวดามาประสิทธิประสาทพร มาสถิตย์ เป็นพระราชพิธีที่ป่าวประกาศให้เทวดารู้ว่าจะมีพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ 

สำหรับวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษก หรือวันฉัตรมงคลนี้ จึงต่างจากวันรับราชสมบัติ หรือวันครองราชย์ ที่ใช้นับเป็นวันที่ 1 ปีที่ 1 ของรัชกาลใหม่ ซึ่งเป็นวันที่ป่าวประกาศให้ประชาชนได้รับรู้ว่ามีพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ ซึ่งมีศักดิ์และสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญทุกประการ

นายวิษณุ กล่าวอีกว่า วันพระราชพิธีบรมราชาภิเษก มีการปรับเปลี่ยนโดยนำพิธีทางพุทธมาผสมผสานกับพิธีทางพราหมณ์มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งมีน้ำเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยคำว่า “อภิเษก” แปลว่า รดน้ำ การขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์จึงมีขั้นตอนสำคัญขั้นตอนหนึ่ง คือต้องมีการอภิเษก หรือรดน้ำ ซึ่งจะเกิดขึ้นใน 2 ชั่วโมงสำคัญ ตั้งแต่เวลา 10.00น. ของวันที่ 4 พ.ค.2562 พระราชพิธีบรมราชาภิเษกจึงมีขั้นตอนสำคัญ 3 ขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ คือ การอาบน้ำ การรดน้ำ และการสวมมงกุฎ