กองกำลัง "สนับสนุนรัสเซีย" เขตปกครองตนเองไครเมียของยูเครนอย่างหนาแน่น หลังสมาชิกสภารัสเซียประกาศจะช่วยนำความสงบสุขกลับคืนคาบสมุทรไครเมีย

กลุ่มชายติดอาวุธแต่งตัวคล้ายทหารรัสเซียประมาณ 100 นาย เดินลาดตระเวนตามถนนในเมืองซิมเฟโรโปล เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองไครเมียในยูเครน โดยให้เหตุผลว่า เป็นการรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่ หลังจากที่กองกำลังลักษณะคล้ายกันนี้ได้บุกยึดสนามบินสองแห่ง และสถานที่ราชการต่างๆในเขตปกครองตนเองไครเมียไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ พร้อมกับมีการชักธงชาติรัสเซียขึ้นสู่ยอดเสา ของสถานที่ราชการด้วย

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ล่าสุด นายเซอร์กีย์ อักซโยนอฟ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเขตปกครองตนเองไครเมียออกมาขอร้องต่อนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียให้ช่วยนำสันติภาพและความสงบสุขคืนสู่คาบสมุทรไครเมีย ด้านสมาชิกรัฐสภารัสเซียออกมาตอบรับว่า รัสเซียจะไม่เพิกเฉยต่อคำขอร้องของไครเมียอย่างแน่นอน แม้ก่อนหน้านี้ รัสเซียยืนยันว่า จะไม่ส่งกำลังทหารของตนเข้าไปแทรกแซงสถานการณ์ทางการเมืองของยูเครน และยังปฏิเสธว่ากองกำลังที่อยู่ในไครเมียขณะนี้ไม่ใช่ทหารของรัสเซียแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของยูเครนจัดการประชุมขึ้นในกรุงเคียฟ โดยนายอาร์เซนีย์ ยัตเซนยุก นายกรัฐมนตรีรักษาการของยูเครนกล่าวว่า การที่รัสเซียส่งกองกำลังเข้ามาในเขตแดนของยูเครน แสดงให้เห็นว่า นี่เป็นการยั่วยุให้ยูเครนตอบโต้ด้วยกำลังทหาร แต่ยูเครนยืนยันว่า จะไม่ทำให้สถานการณ์บานปลายด้วยการใช้กำลังทหารตอบโต้

ด้านนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์เตือนรัสเซีย ว่าอย่าแทรกแซงยูเครนด้วยกำลังทหาร เพราะเป็นการละเมิดพันธะสัญญาที่รัสเซียเคยให้ไว้ ว่าจะเคารพในเอกราช และอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนของยูเครน แต่หากรัสเซียยังคงเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในยูเครนต่อไป ก็ให้เตรียมพร้อมที่จะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ซึ่งนายโอบามา ยังไม่ได้ระบุว่า อะไรคือสิ่งที่รัสเซียต้องรับผิดชอบ แต่สำนักข่าวรอยเตอร์ส ได้อ้างอิง รายงานของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ในรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าสหรัฐฯอาจตัดความสัมพันธ์ทางการค้ากับรัสเซีย จากกรณีนี้