ชาวนาอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ร้องเรียนผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดให้เร่งแก้ปัญหาชาวนาไม่ได้เงินในโครงการรับจำนำข้าว พร้อมวิงวอนสถาบันการเงินปล่อยกู้กับรัฐบาล และขอให้ผู้ชุมนุม หยุดขัดขวางการจ่ายเงินใ
ชาวนาอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ร้องเรียนผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดให้เร่งแก้ปัญหาชาวนาไม่ได้เงินในโครงการรับจำนำข้าว พร้อมวิงวอนสถาบันการเงินปล่อยกู้กับรัฐบาล และขอให้ผู้ชุมนุม หยุดขัดขวางการจ่ายเงินในครั้งนี้
ชาวนาจากอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก กว่า 150 คน ขอพบ นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพื่อเรียกร้องให้เป็นสื่อกลางในการติดตามเงินจำนำข้าวจากรัฐบาล เพราะขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากมีหนี้ ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลง
โดยนายสมยง จ้อยทอง กำนันตำบลวังอิทก อำเภอบางระกำ และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอบางระกำ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทำทุกทางแล้ว รวมทั้งการประท้วงปิดถนน ในวันนี้ อยากวิงวอนไปยังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ชุมนุม ว่าให้หยุดทำร้ายชาวนา หยุดเอาชาวนาเป็นตัวประกัน และขอให้ยุติการขัดขวางการจ่ายเงินให้กับชาวนาของรัฐบาล เพราะชาวนาทุกครัวเรือนกำลังได้รับความเดือดร้อน การขัดขวางครั้งนี้ รัฐบาลไม่ใช่ผู้เดือดร้อนโดยตรง
ส่วนที่จังหวัดร้อยเอ็ด นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับพาณิชย์จังหวัด ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. แถลงข่าวร่วมกัน เรื่องการมอบเงินในโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/2557 จำนวน 200 ราย รวมเป็นเงินกว่า 12 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้ทยอยจ่ายให้กับเกษตรกรไปแล้วกว่า 3 หมื่นราย รวมเป็นเงินกว่า 2,300 ล้านบาท และหลังจากนี้ จะดำเนินการจ่ายตามจำนวนเงินที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาลต่อไป
ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้ออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ยังไม่ได้เงินจากโครงการเพิ่มเติม ด้วยการยืดเวลาชำระหนี้ของเกษตรกรออกไปอีก6 เดือน และในกรณีที่เกษตรกรมีความประสงค์ จะใช้เงิน เพื่อนำไปลงทุนการผลิตในฤดูกาลใหม่ ธ.ก.ส. ก็พร้อมที่จะให้เงินกู้ก้อนใหม่ ตามเกณฑ์สินเชื่อปกติของ ธนาคาร
สำหรับการดำเนินงานตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2556/2557 ทั่วประเทศนั้น ธ.ก.ส. ได้ทยอยจ่ายเงินให้เกษตรกรไปกว่า 59,000ล้านบาทแล้ว คิดเป็นปริมาณข้าวเปลือก 3 ล้าน 7 แสนตัน โดยเป็นเงินจากงบประมาณ และเงินจากการระบายข้าวที่กระทรวงพาณิชย์ส่งมาชำระคืน โดยไม่ได้ใช้เงินทุนของ ธ.ก.ส.แม้แต่บาทเดียว