กองทัพสหรัฐฯ ประกาศอนุญาตให้ทหารทั้ง 4 เหล่าทัพ ไม่ว่าจะเป็นทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ หรือว่านาวิกโยธิน ไว้ผมยาว ไว้หนวดเครา หรือแม้แต่มีรอยสักได้
กองทัพสหรัฐฯ ประกาศอนุญาตให้ทหารทั้ง 4 เหล่าทัพ ไม่ว่าจะเป็นทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ หรือว่านาวิกโยธิน ไว้ผมยาว ไว้หนวดเครา หรือแม้แต่มีรอยสักได้
ขึ้นชื่อว่าทหาร ก็ต้องคู่กับความเป็นระเบียบเรียบร้อย ยูนิฟอร์มงามสง่า และทรงผมตัดสั้น ปราศจากหนวดเครา ดูสะอาดสะอ้านน่าเชื่อถือ แต่นับจากนี้ไป กองทัพสหรัฐฯ ประกาศว่าจะอนุญาตให้ทหารทั้ง 4 เหล่าทัพ ไม่ว่าจะเป็นทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ หรือว่านาวิกโยธิน ไว้ผมยาว ไว้หนวดเครา หรือแม้แต่มีรอยสักได้
อย่าเพิ่งคิดว่ากองทัพสหรัฐฯจะกลายเป็นแกงสเตอร์ฮิปปี้ เพราะกฎนี้ไม่ได้อนุญาตให้กับทหารทุกนาย แต่เป็นการผ่อนคลายความเข้มงวดของกฎระเบียบการแต่งตัวของทหาร เพื่อเคารพเสรีภาพในการปฏิบัติตามหลักศาสนาของแต่ละศาสนาเช่นศาสนาสิกข์ ที่กำหนดให้ผู้ชายต้องไว้ผมยาวและไว้เครา รวมถึงโพกศีรษะ หรือศาสนามุสลิมและยูดาย ที่ผู้ชายต้องสวมหมวกคลุมศีรษะเช่นกัน ส่วนผู้ที่นับถือศาสนาวิคคา หรือลัทธินับถือภูตผีและเทพยดา ก็จะมีรอยสักตามความเชื่อของแต่ละคน
อย่างไรก็ตาม กองทัพบอกว่าการผ่อนคลายกฎระเบียบที่ว่านี้ ไม่ได้หมายความว่าทุกคนสามารถสวมใส่เครื่องประดับศีรษะหรือไว้หนวดเคราได้ตามใจ แต่ต้องขออนุญาตจากหน่วยงานของตนเองเป็นกรณีๆไป และแต่ละหน่วยงานจะอนุมัติตามคำขอ หรือไม่อนุมัติก็ได้ หากพิจารณาแล้วพบว่าเครื่องประดับตามความเชื่อทางศาสนาดังกล่าวขัดต่อหัลกความปลอดภัยและความคล่องตัวในการปฏิบัติภารกิจของทหารคนนั้น เช่นผู้ที่ต้องสวมใส่หมวกเกราะ หรือหน้ากากกันแก๊สพิษ จะไม่ได้รับอนุญาตให้สวมหมวกหรือผ้าคลุมศีรษะ แม้จะเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามทางศาสนาก็ตาม
ทุกวันนี้ในกองทัพสหรัฐฯมีทหารที่เป็นมุสลิมอยู่ 3,700 นาย และเป็นวิคกาอีก 1,500 นาย แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าเมื่อกฎนี้ออกมาแล้ว จะมีผู้มายื่นเรื่องขอผ่อนผันแต่งกายตามหลักศาสนามากน้อยเท่าไหร่ และทหารสิกข์ในกองทัพเองก็บอกว่าแม้ว่าความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเคารพสิทธิเสรีภาพทางศาสนา แต่ก็ยังอีกนานกว่าคนสิกข์และมุสลิมในกองทัพจะได้รับการปฏิบัติเท่าเทียมกับชาวคริสต์ ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ
