ไม่พบผลการค้นหา
พณ.ประกาศกำหนดราคาไข่ไก่และสุกรทั่วประเทศหากพบจำหน่ายเกินราคา มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท

พณ.ประกาศกำหนดราคาไข่ไก่และสุกรทั่วประเทศหากพบจำหน่ายเกินราคา  มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท

 

กระทรวงพาณิชย์ประกาศกำหนดราคาไข่ไก่และสุกรทั่วประเทศ  ดูแลประชาชนในภาวะค่าครองชีพสูง  หากพบผู้ค้ารายใดจำหน่ายเกินราคา จะดำเนินคดีโดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท พร้อมส่งเจ้าหน้ากรมสรรพากรเข้าไปตรวจสอบบัญชีย้อนหลัง
 
จากสถานการณ์ราคาสุกรและไข่ไก่ได้ปรับราคาสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภค กระทรวงพาณิชย์จึงได้ดูแลให้ราคามีความเป็นธรรม และตรวจสอบไม่ให้มีการกักตุนสินค้า  โดยนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมการค้าภายในได้กำหนดมาตรการดูแลและเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ วันที่ 22 เมษายน 2554 โดยการออกประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เรื่อง ราคาไข่ไก่แนะนำ ปี 2554 กำหนดให้ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มราคาฟองละ 3 บาท 10 สตางค์ และกำหนดราคาขายส่งและขายปลีกแนะนำ  ให้ประชาชนใช้ในการตัดสินใจซื้อไข่ไก่ในท้องตลาด 
 
นอกจากนี้ได้ร่วมกับผู้ประกอบการจัดโครงการสุกรและไข่ไก่ธงฟ้า โดยไข่ไก่ธงฟ้าดำเนินการแล้ว 67 จังหวัด 154 จุด ราคาฟองละ 3 บาท 10 สตางค์ – 3บาท 20 สตางค์ ต่ำกว่าราคาตลาดทั่วไปของแต่ละพื้นที่ ประมาณฟองละ 20 – 30 สตางค์ ส่วนหมูธงฟ้า ดำเนินการแล้ว 43 จังหวัด 84 จุด ในราคากิโลกรัมละ 110 – 120 บาท หรือถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป กิโลกรัมละ 15 – 20 บาท ตามภาวะราคาสุกรมีชีวิตในแต่ละพื้นที่
 
ซึ่งในอนาคตจะขยายพื้นที่ดำเนินการจัดจำหน่ายหมูธงฟ้าและไข่ไก่ธงฟ้า ให้ครบ 77 จังหวัด และในแต่ละจังหวัดให้เพิ่มจุดจำหน่ายมากขึ้นด้วย 
 
ทั้งนี้ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มในบางพื้นที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้น  ส่งผลให้ราคาขายปลีกหมูเนื้อแดงอยู่ในระดับสูงขึ้นด้วย   กรมการค้าภายในจึงได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติม โดยประกาศกำหนดราคาขายปลีกหมูเนื้อแดงที่เป็นธรรมในแต่ละภาค  โดย
- ภาคกลาง,ตะวันออกและตะวันตก หมูเนื้อแดงในตลาดสดไม่เกินกิโลกรัมละ 140 บาท
- ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่เกินกิโลกรัมละ 145 บาท 
- ภาคใต้ไม่เกินกิโลกรัมละ 150บาท 
 
หากพบว่ามีการจำหน่ายสูงกว่าราคาแนะนำ อาจมีความผิดตามกฎหมาย โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ แจ้งที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569  
 
นอกจากนี้ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายว่า กรณีที่พบฟาร์มหรือผู้ประกอบการรายใดยังจำหน่ายสุกรและไข่ไก่เกินราคาแนะนำตามประกาศของกรมการค้าภายใน จะให้กรมสรรพากรเข้าไปทำการตรวจสอบรายได้และการเสียภาษีย้อนหลังของผู้ประกอบการรายดังกล่าวด้วย 
 
"พาณิชย์" เผย เงินเฟ้อ เม.ย.54 ทะลุ 4% เทียบปี 53 สูงสุดรอบ 15 เดือน หลังราคาผักสดผลไม้พุ่ง อ้างเป็นปกติ เพราะเข้าหน้าร้อน ผลผลิตเสียหายมาก แต่เข้าหน้าฝนดัชนีจะลดลงได้...เมื่อวันที่ 2 พ.ค. นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทยประจำเดือนเม.ย.54 ว่า ดัชนีอยู่ที่ 112.01 สูงขึ้น 40.4% เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.53 ถือว่าสูงสุดในรอบ 15 เดือนนับจากเดือนม.ค.43 ที่ 4.1% แต่ยังเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจไทย ส่วนเมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.54 สูงขึ้น 1.38% และดัชนีเฉลี่ย 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) 54 สูงขึ้น 3.27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
 
ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ ที่หักรายการสินค้ากลุ่มอาหารสด และพลุ่มพลังงานออกจากการคำนวณเดือนเม.ย.54 อยู่ที่ 105.59 สูงขึ้น 2.07% เมื่อเทียบเดือนเม.ย.53 แต่เมื่อเทียบเดือนมี.ค.54 สูงขึ้นเพียง 0.73% ส่วนดัชนีเฉลี่ย 4 เดือน สูงขึ้น 1.62%สำหรับสาเหตุที่ทำให้ดัชนีเดือนเม.ย.54 สูงขึ้นถึง 4.04% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน เพราะการสูงขึ้นของดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่ม 8.59% จากการสูงขึ้นของดัชนีราคาหมวดข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์ 4.26% เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ 8.86% ไข่และผลิตภัณฑ์นม 6.76% ผักและผลไม้ 20.61% เครื่องประกอบอาหาร 13.03% อาหารสำเร็จรูป 6.14% ขณะที่หมวดไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น 1.35% จากการสูงขึ้นของหมวดพาหนะการขนส่ง และการสื่อสาร 2.45% หมวดเคหสถาน 0.62% เป็นต้น
 
ทั้งนี้ ในเดือนเม.ย.54 มีสินค้าที่ขึ้นราคาไปแล้ว 198 รายการ ลดราคา 64 รายการ และราคาไม่เปลี่ยนแปลง 155 รายการส่วนสาเหตุที่ทำให้ดัชนีเดือนเม.ย.54 สูงขึ้น 1.38% เทียบกับเดือนมี.ค.54 เพราะการสูงขึ้นของดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม 3.12% จากการสูงขึ้นของผักและผลไม้ 6.49% เพราะเข้าสู่หน้าร้อน ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย หลังจากเสียหายจากอากาศร้อน และน้ำท่วมในหลายพื้นที่, เนื้อสุกร 8.90% เพราะเกินโรคระบาด ทำให้ปริมาณสุกรลดลง, ไข่ 10.93% ไก่สด 6.22% เพราะอากาศแปรปรวน แม่ไก่เติบโตช้า และให้ไข่ลดลง, เครื่องประกอบอาหาร 3.44% (น้ำตาลทราย ขนมหวาน น้ำมันพืช กะทิ มะขามเปียก มะพร้าวขูด), อาหารสำเร็จรูป 2.58% ขณะที่หมวดไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 0.30% จากราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น 1.96% ของใช้ส่วนบุคคล 0.12% (สบู่ถูตัว ยาสีฟัน แชมพู ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว)“ดัชนีเดือนนี้สูงขึ้น 4.04% มาจากการสูงขึ้นของราคาผักสด และผลไม้เป็นสำคัญ ซึ่งโดยปกติ ดัชนีเดือน เม.ย. จะสูงขึ้นอยู่แล้ว เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาล เข้าสู่หน้าร้อน ผลผลิตสินค้าเกษตรมักจะเสียหาย และออกสู่ตลาดน้อย ไม่ใช่เรื่องน่าวิตกอะไร ซึ่งจากเหตุผลดังกล่าว น่าจะทำให้ดัชนีไตรมาส 2 สูงขึ้นมาอยู่ที่ 3.45% แต่เมื่อพ้นหน้าร้อน ดัชนีก็มีแนวโน้มลดลง และทั้งปีจะอยู่ตามกรอบเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ที่ 3.2-3.7%” นายยรรยง กล่าว
 
"พาณิชย์" เผย เงินเฟ้อ เม.ย.54 ทะลุ 4% เทียบปี 53 สูงสุดรอบ 15 เดือน หลังราคาผักสดผลไม้พุ่ง อ้างเป็นปกติ เพราะเข้าหน้าร้อน ผลผลิตเสียหายมาก แต่เข้าหน้าฝนดัชนีจะลดลงได้ เมื่อวันที่ 2 พ.ค. นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทยประจำเดือนเม.ย.54 ว่า ดัชนีอยู่ที่ 112.01 สูงขึ้น 40.4% เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.53 ถือว่าสูงสุดในรอบ 15 เดือนนับจากเดือนม.ค.43 ที่ 4.1% แต่ยังเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจไทย ส่วนเมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.54 สูงขึ้น 1.38% และดัชนีเฉลี่ย 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) 54 สูงขึ้น 3.27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ ที่หักรายการสินค้ากลุ่มอาหารสด และพลุ่มพลังงานออกจากการคำนวณเดือนเม.ย.54 อยู่ที่ 105.59 สูงขึ้น 2.07% เมื่อเทียบเดือนเม.ย.53 แต่เมื่อเทียบเดือนมี.ค.54 สูงขึ้นเพียง 0.73% ส่วนดัชนีเฉลี่ย 4 เดือน สูงขึ้น 1.62%สำหรับสาเหตุที่ทำให้ดัชนีเดือนเม.ย.54 สูงขึ้นถึง 4.04% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน เพราะการสูงขึ้นของดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่ม 8.59% จากการสูงขึ้นของดัชนีราคาหมวดข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์ 4.26% เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ 8.86% ไข่และผลิตภัณฑ์นม 6.76% ผักและผลไม้ 20.61% เครื่องประกอบอาหาร 13.03% อาหารสำเร็จรูป 6.14% ขณะที่หมวดไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น 1.35% จากการสูงขึ้นของหมวดพาหนะการขนส่ง และการสื่อสาร 2.45% หมวดเคหสถาน 0.62% เป็นต้น ทั้งนี้ ในเดือนเม.ย.54 มีสินค้าที่ขึ้นราคาไปแล้ว 198 รายการ ลดราคา 64 รายการ และราคาไม่เปลี่ยนแปลง 155 รายการส่วนสาเหตุที่ทำให้ดัชนีเดือนเม.ย.54 สูงขึ้น 1.38% เทียบกับเดือนมี.ค.54 เพราะการสูงขึ้นของดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม 3.12% จากการสูงขึ้นของผักและผลไม้ 6.49% เพราะเข้าสู่หน้าร้อน ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย หลังจากเสียหายจากอากาศร้อน และน้ำท่วมในหลายพื้นที่, เนื้อสุกร 8.90% เพราะเกินโรคระบาด ทำให้ปริมาณสุกรลดลง, ไข่ 10.93% ไก่สด 6.22% เพราะอากาศแปรปรวน แม่ไก่เติบโตช้า และให้ไข่ลดลง, เครื่องประกอบอาหาร 3.44% (น้ำตาลทราย ขนมหวาน น้ำมันพืช กะทิ มะขามเปียก มะพร้าวขูด), อาหารสำเร็จรูป 2.58% ขณะที่หมวดไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 0.30% จากราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น 1.96% ของใช้ส่วนบุคคล 0.12% (สบู่ถูตัว ยาสีฟัน แชมพู ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว)
 
“ดัชนีเดือนนี้สูงขึ้น 4.04% มาจากการสูงขึ้นของราคาผักสด และผลไม้เป็นสำคัญ ซึ่งโดยปกติ ดัชนีเดือน เม.ย. จะสูงขึ้นอยู่แล้ว เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาล เข้าสู่หน้าร้อน ผลผลิตสินค้าเกษตรมักจะเสียหาย และออกสู่ตลาดน้อย ไม่ใช่เรื่องน่าวิตกอะไร ซึ่งจากเหตุผลดังกล่าว น่าจะทำให้ดัชนีไตรมาส 2 สูงขึ้นมาอยู่ที่ 3.45% แต่เมื่อพ้นหน้าร้อน ดัชนีก็มีแนวโน้มลดลง และทั้งปีจะอยู่ตามกรอบเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ที่ 3.2-3.7%” นายยรรยง กล่าว 
 
Produced by VoiceTV
Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog