Lego ของเล่นตัวต่อเสริมจินตนาการของเด็ก ที่ทำจากพลาสติกหลากสีสัน  เชื่อหรือไม่ว่ามีที่มาจากโรงงานไม้ในเดนมาร์ก ที่มาของตัวต่อเลโก้ที่เป็นของเล่นเด็กที่ฮิตทั่วโลก 

 

เลโก้เริ่มขึ้นในปี 1916 โดยช่างไม้ชื่อว่า Ole Kirk Kristiansen เจ้าของโรงงานไม้ในเมืองเล็กๆ อย่าง Billund ประเทศเดนมาร์ก แต่เขาต้องตัดสินใจเปลี่ยนแปลงแนวทางธุรกิจในปี 1932 จากการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้และข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน สู่ธุรกิจการผลิตของเล่นเด็กที่สร้างขึ้นจากไม้ 

 

Ole ตั้งชื่อบริษัทจากความหมายภาษาเดนิชที่ให้ความหมายว่า Play Well ซึ่งคำว่า เลโก้ มาจากคำว่า Leg และ Godt ผสมกัน สอดคล้องกับความหมายในภาษาละติน แปลว่า "ประกอบ"

 

ต่อมาทายาทของ Ole ซึ่งเป็นลูกชายแท้ๆ ของเขาที่ชื่อว่า Godtfres Kirk Kristiansen  เขาทำงานเคียงข้างผู้เป็นพ่อมาตั้งแต่อายุ 12 ปี เขาทำให้ Lego เป็นของเล่นเด็กที่มีความเป็นเอกลักษณ์ คงทน เรียบง่าย เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถสร้างสรรค์จากจินตนาการของตัวเอง และสนุก ซึ่ง Godtfres ได้ตัดสินใจร่างรายชื่อคาแรกเตอร์ของเลโก้ขึ้นมา

 

Godtfres มีความรู้ในเรื่องวิทยาศาสตร์วัสดุ และเทคโนโลยีการผลิตอิฐก่อสร้าง เขาเชื่อมั่นในเรื่องของความช้าแต่แน่นอน การเติบโตอย่างมั่นคง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาใช้เวลานับปีกว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวใหม่สู่ตลาด กรณี Grenn Brick เปิดตัวหลังจากการตัดสินใจอันยาวนานนับทศวรรษ ซึ่งเป็นไอเดียที่ Godtfres ได้มาจากลูกชายของเขาเอง

 

แต่ละก้าวที่ย่างด้วยความช้า แต่สร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจด้วยความแน่นอน ไม้ที่ถูกส่งต่อมาถึงมือของ Kjeld ลูกชายของ Godtfres  ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่สามของเลโก้ เข้ามารับตำแหน่ง เพื่อรับผิดชอบการขับเคลื่อนธุรกิจให้เคลื่อนไปข้างหน้าในรุ่นต่อไป ความต้องการในผลิตภัณฑ์ของ Lego ก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งกลายมาเป็นประเด็นให้ผู้บริหารต้องมาถกเถียงกันในเรื่องของการชะลอการจัดจำหน่าย  แต่หลังจากนั้นไม่นานยอดขายกลับลดลง  เพราะอัตราการเติบโตของเด็กลดต่ำลง

 

ในขณะที่แบรนด์ของ Lego กำลังเติบโต แต่ยอดขายกลับสวนทางกัน ในปี 1988 บริษัทมีปัญหาทางการเงิน  ทำให้ Lego ตัดสินใจหันมาร่วมมือกับ Poul  Plougmann ผู้เชี่ยวชาญที่ถูกจ้างมาเพื่อฟื้นฟู Lego ให้ดีขึ้นอีกครั้ง และเมื่ออำนาจการตัดสินใจอยู่ในมือของ Poul เขาก็ตัดสินใจลดจำนวนพนักงาน ปรับปรุงสิ่งที่ต้องแก้ไขให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้ Lego กลายเป็นแบรนด์ที่มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น แต่ผลจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้สภาพทางการเงินของ Lego กลับย่ำแย่หนักมากขึ้นไปอีก

 

Jørgen Knudstorp ผู้อำนวยการผ่านการพัฒนากลยุทธ์ ได้เข้ามารับไม้ต่อเป็น CEO ต่อจาก Kjeld ในปี 2004  เขาคือผู้พลิกฟื้นวิกฤตของเลโก้

 

Jørgen ใช้ความระมัดระวังในการจัดการเงิน มุ่งเน้นไปที่คุณค่าที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์ และลดทอนความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์ ที่กลายเป็นพื้นฐานสำคัญของความสำเร็จของ Lego ในทุกวันนี้

 

Jørgen ทำงานอย่างหนักเพื่อกำหนดนิยามให้กับคุณค่าที่แท้จริงที่แบรนด์เป็นอยู่ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานจากการวิจัยการตลาด ผลตอบรับจากผู้ใช้งาน และความเหมาะสมของของเล่นที่ตรงกับวิสัยทัศน์ด้านความคิดสร้างสรรค์ที่มาคู่กับคุณภาพ ในฝั่งด้านห่วงโซ่อุปทาน Jørgen กำจัดส่วนของความไม่จำเป็นบางอย่างออกไปโดยการนำโรงงานการผลิตกลับมาผลิตแบบอินเฮ้าส์ เพื่อสร้างความแน่ใจเรื่องคุณภาพการผลิตแบบตลอดกระบวนการ

 

บริษัทนี้เก่าแก่และยังเป็นประวัติศาสตร์ในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงการจัดการ ที่กลายเป็นต้นแบบสำคัญสำหรับธุรกิจในรุ่นหลังได้

 

 

ภาพ : http://www.flickr.com by ljfullofgrace