ผู้ประดิษฐ์ปืนกลแบบเอเค-47 หรือปืนอาก้า เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 94 ปี จากอาการเลือดตกใน หลังเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
นายมิคาอิล คาลาชนิคอฟ ผู้ประดิษฐ์ปืนกลแบบ เอเค-47 หรือปืนอาก้า เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 94 ปี จากอาการเลือดตกใน ที่บ้านเกิดในเมืองอิเชฟสก์ ห่างจากกรุงมอสโก ของรัสเซีย ไปทางทิศตะวันออก 960 กิโลเมตร หลังเขาเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
นายคาลาชนิคอฟ เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนปี 2461 ในไซบีเรียตะวันออก เขาเข้าร่วมกับกองทัพแดงของสหภาพโซเวียตในปี 2481 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาได้ร่วมรบในกองพลรถถัง และเมื่อได้รับบาดเจ็บจากการรบ เขาพยายามออกแบบปืนที่มีประสิทธิภาพเพื่อใช้กับกองทหารในระหว่างการรักษาตัว
ในปี 2490 ปืนกลแบบแอฟโตแมต คาลาชนิคอฟวา หรือ เอเค-47 ได้รับการออกแบบเสร็จสมบูรณ์ โดยมีต้นแบบมาจากปืนกลของเยอรมนีที่กองทัพแดงยึดได้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และในอีก 2 ปีต่อมา กองทัพแดงได้พิจารณานำปืนอาก้าเข้าประจำการในกองทัพและเข้าสู่สายการผลิตในที่สุด
ภายหลังจากที่ปืนอาก้าเข้าสู่สายการผลิตแล้ว เขากลับมาทำงานในโรงงานผลิตปืนอาก้า ที่เมืองอิเชฟสก์ จนกระทั่งเกษียณอายุ ขณะที่ทางการสหภาพโซเวียตได้มอบเหรียญอิสริยาภรณ์เลนิน และเหรียญวีรบุรุษแห่งรัสเซีย ซึ่งเป็นอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดของสหภาพโซเวียตและรัสเซียให้แก่เขาด้วย
นายคาลาชนิคอฟ เคยปฏิเสธที่จะรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของมนุษยชาติ ที่เกิดจากอาวุธปืนของเขา อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกเศร้าใจและเจ็บปวดที่ปืนของเขาถูกใช้โดยอาชญากร และทหารเด็ก ถึงแม้ว่า ปืนชนิดนี้จะสร้างความภาคภูมิใจให้กับเขาก็ตาม
ปืนอาก้า ถือเป็นอาวุธปืนที่มีอัตราการผลิตสูงสุดถึง 50 ล้านกระบอกจากโรงงานผลิตทั่วโลก มีการใช้อย่างแพร่หลายตลอดระยะเวลากว่า 60 ปีที่ผ่านมา หลายคนขนานนามให้มันเป็นปืนแห่งการปฏิวัติ ขณะที่บางคนมองว่า มันเป็นอาวุธอันทรงประสิทธิภาพที่สุดสำหรับใช้ประหัตประหารชีวิตมนุษย์มาแล้วทั่วโลก