ไม่พบผลการค้นหา

World

จาก 'อัลไต' ถึง 'กรุงเทพฯ'
Nov 19, 2013
( Last update Nov 19, 2013 00:52 )
"ชนชาติไทย" แท้จริงแล้วมาจากที่ไหน ยังเป็นแนวคิดที่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ขณะที่หลายคนเชื่อว่า คนไทยนั้นมาจาก "เทือกเขาอัลไต" ดูจะเป็นแนวคิดที่ไม่สมเหตุผล

"ชนชาติไทย" แท้จริงแล้วมาจากที่ไหน ยังเป็นแนวคิดที่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ขณะที่หลายคนเชื่อว่า คนไทยนั้นมาจาก "เทือกเขาอัลไต" ดูจะเป็นแนวคิดที่ไม่สมเหตุผล แต่กลับสร้างกรอบคิดและความเชื่อชุดหนึ่งที่ยังตกค้างมาสู่ปัจจุบัน แนวคิดเช่นนั้นคืออะไร แล้วส่งผลอย่างไรในปัจจุบัน
 
คำถามที่ว่า "คนไทย" มาจากไหนยังคงเป็นคำตอบที่คลุมเครือ และยังไม่มีผู้ใดสามารถฟันธงได้อย่างแน่นอนว่าแท้จริงแล้วคนไทยมาจากไหน เป็นเวลานานหลายทศวรรษ ที่การศึกษาประวัติศาสตร์ชนชาติไทยยังไม่ได้รับการปรับปรุง หรือก่อให้เกิดการถกเถียงอย่างจริงจัง เนื่องจากกรอบคิดชุดหนึ่งที่ว่าชนชาติไทยมาจาก "เทือกเขาอัลไต" นั้น ดูจะเป็นเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก จนทำให้นักวิชาการรุ่นใหม่ปัดแนวคิดนี้ตกไปอย่างไม่ใยดี

"เทือกเขาอัลไต" เป็นเทือกเขาที่ตั้งอยู่ในบริเวณเอเชียกลาง มีพรมแดนติดต่อระหว่างประเทศมองโกเลีย รัสเซีย จีน และคาซัคสถาน หลายคนขนานนามอัลไตว่าเป็น "ภูเขาทอง" หรือ "สวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชียกลาง" ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2541 อีกด้วย

เเนวคิดว่าด้วยเรื่องเชื้อชาติไทยอพยพมาจากเทือกเขาอัลไตนั้น ถูกนำเสนอโดยนายวิลเลียม คลิฟตัน ดอดด์ มิชชันนารีชาวอเมริกัน ก่อนที่ขุนวิจิตรมาตรา จะนำแนวคิดดังกล่าวมาเผยแพร่ลงในหนังสือหลักไท ปี 2471 ซึ่งเชื่อว่าคนไทยอพยพมาจากเทือกเขาอัลไต ลงมายังจีนตอนใต้ก่อนที่ ชาวจีนและชาวมองโกล ขับไล่ลงมายังดินแดนสุวรรณภูมิ ทั้งยังเชื่อว่าคนไทยมีเชื้อสายมองโกลอีกด้วย

นักโบราณคดีจำนวนมาก กลับไม่เชื่อแนวคิดของดอดด์ และขุนวิจิตรมาตรา เนื่องจากการศึกษาทางโบราณคดี และภูมิศาสตร์ที่ทันสมัยมากขึ้น ทำให้เชื่อว่าการอพยพผ่านเทือกเขาอัลไต ซึ่งเป็นเขตแห้งแล้ง อากาศมีความหนาวเย็น ถ้าอพยพโยกย้ายลงมาก็ต้องผ่านทะเลทรายที่กว้างใหญ่ และทุรกันดารหลายพันกิโลเมตร จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่รอดลงมาถึงดินแดนสุวรรณภูมิได้

ด้านนักประวัติศาสตร์เชื่อว่า ชุดความคิดดังกล่าวเป็นหนึ่งในเครื่องมือของอุดมการณ์ชาตินิยมในสมัยสร้างชาติให้เป็นอารยะของจอมพล ป. พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านการเขียนประวัติศาสตร์นิพนธ์ของหลวงวิจิตรวาทการ และขุนวิจิตรมาตรา ที่พยายามอธิบายรากเหง้าว่า "ไทย" เป็นชาติที่แข็งแกร่งยิ่งใหญ่มากที่สุดในดินแดนสุวรรณภูมิ ทั้งยังผูกเรื่องราวของอาณาจักรโบราณของไทยที่ยิ่งใหญ่  ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี จนถึงรัตนโกสินทร์ โดยมีศูนย์กลางที่ "กรุงเทพมหานคร" เข้ากับ "วาทะกรรมการเสียดินแดน" อีกด้วย

ประวัติศาสตร์นิพนธ์ชุดนี้ ยังถูกบรรจุลงในบทเรียนของกระทรวงศึกษาธิการและหนังสือแผนที่ภูมิศาสตร์ของทองใบ แตงน้อย ที่ผลิตซํ้ามาเป็นเวลาหลายทศวรรษถึงปัจจุบัน จนกลายเป็นความจริงชุดหนึ่ง ถึงแม้หลายฝ่ายจะไม่ปักใจเชื่อ แต่อุดมการณ์ชาตินิยมในเรื่องดินแดนอันยิ่งใหญ่ของไทยที่แฝงอยู่ ยังคงเป็นเกมการเมืองที่กลุ่มผู้ชุมนุมในกรุงเทพฯ นำมาใช้เพื่อการเคลื่อนไหวอย่างไม่ลดละ

ไม่เพียงแค่นั้น แนวคิดเรื่อง"เทือกเขาอัลไต" ยังเป็นการพูดในทำนอง "เสียดสี" ในสังคมออนไลน์ ต่อกลุ่มชาตินิยม ที่ต้องการเคลื่อนไหวทวงคืนดินแดนอย่างปราสาทพระวิหาร โดยชี้ว่าเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เหตุใดพวกเขาจึงไม่ทวงคืน "เทือกเขาอัลไต" อันเป็นต้นกำเนิดของบรรพบุรุษไทยที่ยิ่งใหญ่เสียเลยเล่า

ท้ายที่สุด ปัจจุบันยังคงไม่มีผู้ใดสามารถยืนยันที่มาที่ไปของชนชาติไทยได้ชัดเจน แต่สิ่งหนึ่งที่น่าเป็นไปได้มากที่สุด ที่เราๆ ท่านๆ มักหลงลืมไปนั่นก็คือ การอพยพเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดน ถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลามาตั้งแต่ครั้งอดีตกาลแล้ว

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog