ไม่พบผลการค้นหา
ชมความงามของปราสาทหินในแบบที่ไม่ต้องวุ่นวายใจเรื่องการเมือง ด้วยการไปเที่ยวชมนางอัปสราตามกำแพงหิน มาดูกันค่ะว่าอัปสราของที่ไหนจะงดงามที่สุด

culture corner ประจำวันที่ 8 พฤศจิกายน 2556

อีกไม่กี่วันก็จะถึงการตัดสินคดีพระวิหารระหว่างไทยกับกัมพูชา อุณหภูมิทั้งในกรุงเทพฯและชายแดนก็ดูจะร้อนแรงตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง culture corner สัปดาห์นี้ก็เลยจะพาคุณผู้ชมไปคลายเครียด ชมความงามของปราสาทหินในแบบที่ไม่ต้องวุ่นวายใจเรื่องการเมือง ด้วยการไปเที่ยวชมนางอัปสราตามกำแพงหิน มาดูกันค่ะว่าอัปสราของที่ไหนจะงดงามที่สุด

ปราสาทหินอาจจะไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนโปรดปราน หากคุณไม่ใช่คอโบราณคดีตัวจริงเสียงจริงที่หลงใหลในเรื่องราวเบื้องหลังก้อนศิลาหักพัง แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวหลายคนที่ติดอกติดใจกับการไปเดินสำรวจซอกมุมเล็กๆน้อยๆของปราสาทหินเก่าแก่ต่างๆ โดยสิ่งที่พวกเขาหลงเสน่ห์ ไม่ใช่ตัวปราสาท แต่เป็นบรรดานางอัปสราแสนสวยที่เริงร่าอยู่บนผนังหินมานานนับพันปี

อัปสราเป็นนางฟ้าที่ตาคติของฮินดู เชื่อว่าเกิดจากการกวนเกษียณสมุทรเพื่อปลุกเสกน้ำอมฤติ ครั้งนั้นเกิดนางอัปสรขึ้นมาถึง 35 ล้านองค์ พวกนางจึงกลายเป็นนางบำเรอแห่งสรวงสวรรค์ที่เป็นทั้งอาหารตาและอาหารใจให้กับเทวดา คนธรรพ์ รวมถึงบรรดามนุษย์เดินดินอย่างเราๆ ที่ได้ยลโฉมนางอัปสราผ่านจิตรกรรมฝาผนังตามวัดวาอารามและปราสาทหินต่างๆ

ปราสาทหินที่มีนางอัปสราประดับผนังมากที่สุด หลายๆคนคงเดาออกว่าคือนครวัด สุดยอดปราสาทหินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่มีนางอัปสรากว่า 1,800 องค์ และที่น่ามหัศจรรย์ก็คือ แต่ละองค์มีหน้าตา ทรงผม ท่าทาง และเครื่องประดับประดาร่างกายไม่ซ้ำกันเลยสักองค์เดียว และนี่คือโฉมหน้าของนางอัปสราที่มีชื่อเสียงที่สุดของนครวัด ว่ากันว่าเธอมีรอยยิ้มที่ตราตรึงใจที่สุด ที่กาลเวลานับพันปี ไม่สามารถกัดกร่อยลบเลือนลงได้เลย

ลักษณะสำคัญอีกอย่างของนางอัปสรานครวัด ก็คือรูปร่างอ้อนแอ้น เอวคอดกิ่ว สะโพกผาย แตกต่างจากนางอัปสรายุคก่อนหน้า ที่มักมีรูปร่างอวบอิ่มตามติความงามแบบอินเดีย นอกจากนี้พวกเธอยังมีเครื่องต้นเครื่องทรงอลังการเป็นพิเศษ สมกับที่เป็นนางฟ้าแห่งมหาปราสาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาณาจักรขอมโบราณ

อัปสราแห่งนครวัด อาจจะเป็นสาวชาววังที่สวยงามอลังการ เต็มไปด้วยจริตจะก้าน แต่อัปสราที่งามอ่อนหวานแบบกุลสตรี คงต้องยกให้อัปสราแห่งบันทายศรี ปราสาทหินสีชมพูแห่งเมืองพระนครหรือนครธมของกัมพูชา ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็น "ป้อมปราการแห่งสตรี" ตามชื่อภาษาเขมรว่าบันเตียสไร จึงมีลวดลายปูนปั้นและหินสลักที่อ่อนช้อยงดงามที่สุดในบรรดาปราสาทหินแห่งเมืองพระนคร แม้จะไม่ใหญ่โตเท่านครวัด

และด้วยความที่หินทรายซึ่งใช้สร้างบันทายสรีเป็นสีชมพู นางอัปสราที่นี่จึงมีผิวพรรณผ่องใสอมชมพูกันทุกนาง และที่สำคัญ ยังมีหน้าตายิ้มแย้มอ่อนโยน ไม่แข็งกระด้างเหมือนนางอัปสรนครวัดอีกด้วย เมื่อบวกกับรูปร่างที่อวบอิ่มสมบูรณ์ นางอัปสราแห่งบันทายศรีจึงไม่ได้งามแบบนางงามหรือนางฟ้านางสวรรค์ แต่เป็นความงามของแม่ผู้อบอุ่นใจดี จนได้รับการยกย่องว่าเป็น "โมนาลิซา" แห่งเอเชียกันเลยทีเดียว

แต่นางอัปสราสวยๆ ใช่ว่าจะมีแต่ในกัมพูชาเท่านั้น ในไทยเองก็มีอัปสราที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามเช่นกัน นางอัปสราองค์นี้ไม่ได้อยู่ในปราสาทดังๆอย่างพนมรุ้ง พิมาย หรือพระวิหาร แต่อยู่ที่ปราสาทหินศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ นางอัปสราแห่งศีขรภูมิพำนักอยู่ ณ กรอบประตู 2 ด้านของปรางค์ประธาน แวดล้อมด้วยทวารบาล ที่นอกจากจะพิทักษ์ประตูสู่พระปรางค์ ยังพิทักษ์นางอัปสราทั้งสองไว้ให้คงสภาพ ไม่สึกร่อนด้วยแดด ลม และกาลเวลา จนได้รับการยกย่องให้เป็นนางอัปสราที่ได้สัดส่วนสวยงาม และสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog