ไม่พบผลการค้นหา

World

คำทำนายของ 'รัสปูติน'
Nov 6, 2013
( Last update Nov 6, 2013 00:30 )
เราจะพาย้อนดูเรื่องราวของ "รัสปูติน" และคำทำนายเกี่ยวกับอนาคตของรัสเซีย และราชวงศ์โรมานอฟ ไปดูกันว่าเขาผู้นี้มีความสำคัญต่อรัสเซียเช่นไร และคำทำนายของเขาเป็นจริงหรือไม่

หากพูดถึงบุคคลในประวัติศาสตร์ของรัสเซีย ที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคการปฏิวัติรัสเซีย หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น "รัสปูติน" นักบวชผู้อื้อฉาว และทรงอำนาจที่สุดในยุคนั้น เนื่องในโอกาสครบรอบการเริ่มต้นการปฏิวัติรัสเซียในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้  เราจะพาย้อนดูเรื่องราวของ "รัสปูติน" และคำทำนายเกี่ยวกับอนาคตของรัสเซีย และราชวงศ์โรมานอฟ ไปดูกันว่าเขาผู้นี้มีความสำคัญต่อรัสเซียเช่นไร และคำทำนายของเขาเป็นจริงหรือไม่

กริกกอรี เอฟีโมวิช รัสปูติน นักบวชผู้อื้อฉาว จากไซบีเรีย ผู้ที่หลายคนเชื่อว่าสามารถหยั่งรู้อนาคตได้อย่างถูกต้องตั้งแต่เด็ก แต่อุปนิสัยที่เงียบขรึมและดูพิลึก ทำให้หลายคนไม่กล้าเข้าใกล้ จนกระทั่งเขาได้เข้าถือพรตเป็นนักบวช จนได้รับศรัทธา แต่เมื่อชาวบ้านพบว่าเขามักมากในกาม สำมะเลเทเมา ต่างก็ขนานนามว่า "นักบวชวิปลาส"

หลังเดินทางกลับจากการแสวงบุญในประเทศกรีซ และนครเยรูซาเล็ม รัสปูตินอ้างตัวเป็นผู้วิเศษ และสามารถรักษาโรคได้ ซึ่งในขณะนั้น เจ้าชายอเล็กเซย์ พระโอรสองค์สุดท้องของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 มีพระอาการประชวรด้วยโรคโลหิตไหลออกไม่หยุด ทำให้ราชสำนักรัสเซียต้องจัดหาหมอฝีมือดีจำนวนมากมารักษาแต่พระอาการก็ไม่หายขาด

รัสปูติน เป็นเพียงคนเดียวที่สามารถรักษาพระอาการของเจ้าชายอเล็กเซย์ได้ ปัจจุบัน หลายฝ่ายเชื่อว่าการสะกดจิตให้หลับ เป็นวิธีที่รัสปูตินใช้ เพื่อให้ระบบร่างกายเยียวยาพระวรกายของเจ้าชายเอง ซึ่งหาใช่ความวิเศษแต่อย่างใด ทว่าชื่อเสียงของรัสปูติน ทำให้จักรพรรดินีอเล็กซานดรา ร้องขอให้รัสปูตินเข้ามาอยู่ในวัง เพื่อรักษาพระโอรส ทำให้เขามีบทบาทและอำนาจในราชสำนัก สามารถจัดงานเลี้ยงฉลองใหญ่โตได้ตลอดเวลา ในขณะที่ชาวรัสเซียมีสภาพความเป็นอยู่ที่แร้นแค้น

ความฟุ่มเฟือยของรัสปูติน ทำให้พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ไม่พอพระทัย จนต้องตำหนิติเตียน สร้างความไม่พอใจให้กับรัสปูติน ประกอบกับรัสเซียได้เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 รัสปูตินจึงทำนายว่า การเข้าสงครามจะนำหายนะมาสู่ประเทศ ถึงแม้ว่าพระเจ้าซาร์จะไม่เห็นด้วย และเมื่อพระเจ้าซาร์เสด็จบัญชาการรบเองในสมรภูมิ จักรพรรดินีอเล็กซานดราซึ่งเชื่อมั่นในระบบอัตตาธิปไตยได้เข้าบริหารราชการแทนพระเจ้าซาร์ แต่เป็นไปตามคำแนะนำของรัสปูตินทั้งหมด

การแต่งตั้งบุคคลตามความพอใจ ความฟุ่มเฟือยหรูหราของราชสำนัก ที่ตั้งอยู่บนความเดือดร้อนของประชาชนสร้างความไม่พอใจให้กับสภาดูมา และประชาชน โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของฝ่ายซ้ายที่ซบเซาหลังปี 2450 กลับมาโหมกระพือข่าวความเหลวแหลกของราชวงศ์ใต้เงาของรัสปูติน เพื่อปลุกระดมมวลชนเพื่อล้มราชวงศ์โรมานอฟ   

ขณะเดียวกัน เชื้อพระวงศ์ระดับสูง คือเจ้าชายยูซูปอฟ หลานเขยพระเจ้าซาร์ เกรงว่า สถานการณ์การเมืองที่มีรัสปูตินอยู่เบื้องหลัง จะเป็นเงื่อนไขให้ประชาชนโค่นล้มราชวงศ์ และวิธีเดียวที่จะทำได้นั่นคือการกำจัดรัสปูติน ด้วยอุบายลวงให้มางานเลี้ยงแล้วทำการสังหาร ด้วยเครื่องดื่มใส่ยาพิษ เมื่อรัสปูตินดื่มไปแล้วกลับไม่รู้สึกใดๆ เจ้าชายยูซูปอฟและข้าราชการจึงใช้ปืนระดมยิง จนกระทั่งตกลงไปในแม่นํ้า และสำลักนํ้าเสียชีวิตในที่สุด

ท่ามกลางข่าวการเสียชีวิตของรัสปูติน นำมาซึ่งความโศกเศร้าของจักรพรรดินีเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพราะความสนิทสนม แต่รัสปูตินได้เขียนคำทำนายฉบับสุดท้ายว่า ถ้าสามัญชนฆ่าเขา ราชวงศ์โรมานอฟจะอยู่ยั้งไปอีกหลายร้อยปี แต่ถ้าเชื้อพระวงศ์ฆ่าเขา ราชวงศ์โรมานอฟจะถึงการล่มสลายลงในอีก 2 ปีข้างหน้า ท้ายที่สุดแล้ว การปฏิวัติรัสเซียในปี 2460 ก็เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะไม่มีคำทำนายดังกล่าวของรัสปูติน แต่เงื่อนไขที่สุกงอม และพลวัตรทางการเมืองของรัสเซียในขณะนั้น ก่อให้เกิดจลาจลเรียกร้องความเป็นธรรมของประชาชนผู้ยากไร้ ทั้งยังโดนกระบี่อาญาสิทธิ์ของราชวงศ์เข้าปราบปรามอย่างหนัก และนั่น ก็ย่อมเป็นเงื่อนไขก่อให้เกิดการปฏิวัติรัสเซียอยู่ดีมิใช่หรือ

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog