ไม่พบผลการค้นหา
สหรัฐฯ เป็นประเทศหนึ่งที่ตื่นตัวเรื่องการวินิจฉัยโรคสมาธิสั้นในเด็กมากเป็นพิเศษ โดยในระยะหลังมานี้ตรวจเจอเด็กสมาธิสั้นและเด็กที่มีปัญหาด้านการเรียนรู้เพิ่มขึ้น

สหรัฐฯ เป็นประเทศหนึ่งที่ตื่นตัวเรื่องการวินิจฉัยโรคสมาธิสั้นในเด็กมากเป็นพิเศษ โดยในระยะหลังมานี้ตรวจเจอเด็กสมาธิสั้นและเด็กที่มีปัญหาด้านการเรียนรู้เพิ่มขึ้น ซึ่งจากการศึกษาพบว่าไม่ได้มีสาเหตุมาจากพันธุกรรมเสียทีเดียว แต่เป็นเรื่องสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูประกอบกันด้วย วันนี้จะพาไปรู้จักโรคสมาธิสั้น หรือ A.D.H.D.



แต่เดิม มาตรการของโรงเรียนต่อเด็กที่อยู่ไม่สุขมักเป็นไปในทางเดียวกัน คือ ตีบ้าง ทำโทษบ้าง เพื่อให้เด็กสามารถอยู่ในระเบียบได้ดีขึ้น ต่อมา การศึกษาวิจัยกลับทำให้พบว่าอาการอยู่ไม่สุขนี้เป็นอาการผิดปกติทางด้านพฤติกรรม และควรได้รับการรักษา อาการที่ว่านี้เรียกว่าโรค A.D.H.D.



โรคสมาธิสั้น หรือ A.D.H.D. ย่อมาจาก Attention Deficit Hyperactivity Disorder หมายถึง ความผิดปกติทางด้านพฤติกรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการทำงานที่ไม่เต็มที่หรือผิดเพี้ยนไปของสมอง โดยเฉพาะในส่วนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสมาธิ ทำให้เกิดการทำงานที่ไม่สัมพันธ์กันกับระบบสั่งงานอื่น ๆ ในร่างกาย โดยผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้น คือ ผู้ที่มีความบกพร่องเรื่องสมาธิและการควบคุมการกระทำของตนเอง ไม่สามารถจดจ่อกับอะไรได้นาน หรือไม่ตอบสนองตามธรรมชาติของเด็กปกติ อย่างไรก็ตาม มีผู้ใหญ่จำนวนหนึ่งเพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ตอนโตแล้วเช่นกัน เพียงแต่ไม่มากเท่าที่พบในเด็ก



สาเหตุของโรค A.D.H.D. ไม่สามารถสรุปได้แน่ชัด แต่น่าจะเป็นหลายปัจจัยประกอบกัน ได้แก่ พันธุกรรม การทำงานของสมอง ระบบประสาท ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ สิ่งแวดล้อมทางสังคม และการดูแล เป็นต้น



เด็กที่เป็น A.D.H.D. มักมีพฤติกรรมแปลกแยกจากเด็กปกติทั่วไป มีอาการสำคัญ 3 กลุ่ม คือ ไม่มีสมาธิ อยู่ไม่สุข และทนรออะไรไม่ได้ มักเป็นเด็กเหม่อลอยและนั่งนิ่งเป็นระยะเวลานาน ขณะที่ถ้าเริ่มทำกิจกรรมใดใดก็จะวอกแวกได้ง่าย แม้จะมีสิ่งเร้าเพียงเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้น หากเป็นกิจกรรมที่เด็กสนใจเอามาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมหรือรายการโทรทัศน์ ก็อาจจะตั้งใจจดจ่อเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงต่อเนื่องได้



ในบางกรณี อาการมักแสดงออกมาในรูป "ความซน" คือ ซนมากกว่าเด็กทั่วไป มีพลังงานในการเล่นตลอดเวลา ชอบวิ่งเล่นหรือปีนป่ายในที่ที่ไม่สมควรแบบไม่หวาดกลัวต่ออันตราย และไม่มีระเบียบวินัยในตนเอง นอกจากนี้ ยังอาจขาดความยับยั้งชั่งใจ หุนหันพลันแล่น รออะไรไม่เป็นอีกด้วย



เด็กบางคนมีลักษณะอาการสำคัญให้เห็นครบทั้ง 3 กลุ่ม ขณะที่บางคนมีลักษณะเพียงกลุ่มอาการเดียว เช่น อาจจะไม่ซนมากและสามารถอดทนรอได้ แต่ไม่มีสมาธิและวอกแวกง่าย เป็นต้น


การรักษาอาการเหล่านี้แบ่งได้เป็นหลายประเภท ทั้งการรักษาทางยา การรักษาด้วยคอร์สการเรียนรู้ การรักษาด้วยพฤติกรรมบำบัด และอื่น ๆ แต่ไม่ว่าจะรักษาแบบใด สิ่งที่สำคัญก็คือ การวินิจฉัยได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะอาการนี้สามารถควบคุมและบรรเทาได้



สิ่งที่ควรคำนึงถึงเสมอก็คือ ผู้ปกครองและคนรอบข้างจำเป็นต้องมีความรักความเข้าใจอย่างมาก เพื่อให้ผู้ที่เป็นโรคสมาธิสั้นได้รู้ว่า ความแตกต่างอย่างแปลกแยกนี้ไม่ได้สร้างความแตกแยกและรอยร้าวในครอบครัวแต่อย่างใด

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog