ไม่พบผลการค้นหา
เว็บไซต์วิกิพีเดีย ได้มีการรายงาน ข้อมูล และลำดับช่วงเวลา อาการป่วยและการรักษาตัว ของนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง สายัณห์ สัญญา ที่เข้าพักรักษาตัวด้วยอาการป่วยโรคมะเร็งตับตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา
เว็บไซต์วิกิพีเดีย ได้มีการรายงาน  ข้อมูล และลำดับช่วงเวลา อาการป่วยและการรักษาตัว ของนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง สายัณห์ สัญญา   ที่เข้าพักรักษาตัวด้วยอาการป่วยโรคมะเร็งตับตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา  ก่อนที่ล่าสุด วันนี้ ( 11ก.ย.) เวลา 12.35น.  สายัณห์ ได้เสียชีวิตลงแล้ว ด้วยวัย 60 ปี 
 
 
 
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา สายัณห์เข้าพักรักษาตัวด้วยโรคมะเร็งตับ ที่โรงพยาบาลศรีวิชัย ย่านสามแยกไฟฉาย ฝั่งธนบุรี หลังจากที่สายัณห์นอนพูดคุยกับครอบครัวที่บ้านพัก เกิดฟุบหมดสติ เนื่องจากอาการน็อกเบาหวาน จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลศรีวิชัย เนื่องจากอยู่ใกล้บ้านที่สุด โดยแพทย์รีบนำเข้ารักษาที่ห้องฉุกเฉินทันที แพทย์พบจุด 4 จุดในตับอ่อน และอยู่ในสภาวะกระจายตัว แพทย์จึงนำชิ้นเนื้อไปตรวจ เนื่องจากสันนิษฐานว่าเป็นมะเร็ง โดยก่อนหน้านี้เพียง 2 วัน สายัณห์เคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ซึ่งแพทย์ตรวจพบเซลล์มะเร็งในเม็ดเลือด และก้อนเนื้อขนาด 3 เซนติเมตร ที่ตับอ่อนด้วย 
 
วันที่ 17 กรกฎาคม ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสายัณห์ สัญญากำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศรีวิชัย สามแยกไฟฉาย ฝั่งธนบุรี ทางครอบครัวพร้อมด้วยคณะแพทย์มีการแถลงข่าวเรื่องอาการในวัน 18 กรกฎาคม เวลา 18.00 น. 
 
 
วันที่ 19 กรกฎาคม สายันห์ สัญญา ได้ถูกย้ายไปที่โรงพยาบาลพระราม 9 เนื่องจากโรงพยาบาลศรีวิชัย เครื่องมือแพทย์ไม่เพียงพอในการรักษา เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สายัณห์ มีอาการอ่อนแรง ซึ่งแพทย์ได้ทำการตรวจพบว่าสายัณห์มีนํ้าตาลในเลือดในปริมาณที่มาก และตรวจพบจุดดำที่บริเวณตับอ่อน จึงแจ้งให้สายัณห์ทราบ และให้นอนดูอาการที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 2 คืน ก่อนที่สายัณห์จะกลับมานอนพักฟื้นที่บ้าน
 
 
 21 กรกฎาคม นางวรรณพร สัมฤทธิ์ ผู้เป็นภรรยาของ สายัณห์ สัญญา ที่นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระราม 9 เปิดเผยอาการล่าสุด โดยรวมดีขึ้นเล็กน้อย ทานอาหารได้บ้าง แต่ยังคงมีไข้เป็นระยะ
 
 
ทั้งนี้ เมื่อคืนวันที่ 21 กรกฎาคม ทางแพทย์ได้ให้เลือดเพิ่มอีก 1 ถุง เนื่องจากตัว สายัณห์เอง มีภาวะเลือดจางรุนแรง และในวันที่ 22 กรกฎาคม ทางแพทย์จะทำการเจาะตับ เพื่อนำเอาตัวอย่างน้ำและชิ้นเนื้อไปตรวจหาสารมะเร็งอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากร่างกายของสายัณห์ยังอ่อนแอ ไม่สามารถที่จะเจอตรวจมะเร็งที่ตับอ่อนได้โดยตรง เพราะจะมีความเสี่ยงสูง โดยทางแพทย์คาดว่าหากสามารถตรวจสารมะเร็งที่ตับได้ ก็จะวางแนวทางการรักษาได้ถูกต้องมากขึ้น 
 
 
อนึ่งในวันเดียวกัน(22 กรกฎาคม) สายัณห์ สัญญา ได้เดินทางไปถวายสังฆทานที่วัดพระธรรมกายเนื่องด้วยซึ่งเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัวและขอให้เขาหายจากอาการป่วยโดยเร็ว
ขณะเดียวกัน ภรรยาของสายันต์ ยังบอกอีกด้วยว่า เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ทางด้านผู้ใหญ่ได้ส่งตัวแทนมาเยี่ยมไข้จำนวนมาก รวมทั้งนายกรัฐมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วย ซึ่ง ทาง พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมจะดูแลค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด 
 
 
วันที่ 23 กรกฎาคม ทางรายการตีสิบได้เดินทางไปเยี่ยม สายัณห์ เพื่อให้กำลังใจพร้อมกับพูดคุยเล็ก ๆ น้อย ๆ ถึงอาการ และความน่ารักของลูก ๆ ทั้ง 4 คน ซึ่งเป็นเสมือนพลังใจที่ทำให้สายัณห์ เข้มแข็ง ต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บที่ถาโถมเข้ามาได้เมื่อไปถึงยังห้องผู้ป่วย สายัณห์ ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ถึงแม้สีหน้าจะดูอิดโรยไปบ้าง แต่ไร้ซึ่งความเครียด พร้อมเล่าอาการให้ฟังคร่าว ๆ ว่า.. คุณหมอดูแลและรักษาอย่างดี ทำให้อาการของตนดีวันดีคืน เวลายาหมดหรือเราต้องการอะไร เขาก็เข้ามาดูแลให้ตลอด 24 ชั่วโมงเลย ซึ่งตอนนี้ตนพอเดินได้แล้ว
 
 
พิธีกรถามว่าหน้าตาดูแจ่มใสมาก อย่างนี้เรียกว่าใจเป็นนายกายเป็นบ่าวหรือเปล่า เพราะเห็นพี่เป้ายิ้มตลอดเมื่อให้สัมภาษณ์นักข่าว ด้านพี่เป้า สายัณห์ เผยว่า ตอนนี้กำลังใจดีมาก และอีกอย่างตนไม่ใช่คนยึดติด เป็นคนที่ปล่อยวางมานานแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
 
 
สายัณห์ กล่าวว่า  "ไม่เข้าโรงพยาบาลมา 20 ปี ไม่เคยตรวจเช็กร่างกาย หรือตรวจอะไรประจำปีเลย เพราะเรามีความรู้สึกว่าเราแข็งแรงมาก ออกกำลังกายทุกวัน วิดพื้นวันละ 30 ครั้ง ยกดัมเบลวันละ 150 ครั้งทุกวัน เราทะนงเกินไป เพราะว่าที่ผ่านมา ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ กินอาหารอะไรก็ค่อนข้างระวัง เซฟร่างกายตลอดเวลา ชั่งน้ำหนักตลอด ก็ไม่คิดว่าแข็งแรง ๆ จะป่วยหนักแบบนี้" 
 
 
สำหรับสัญญาณที่เริ่มรู้ว่าตัวเองป่วยนั้น พี่เป้า เล่าว่า วันที่รับปริญญาลูกเกรซ ที่ ม.กรุงเทพ ก็ถ่ายรูปกับลูก ๆ และครอบครัว จู่ ๆ ก็เริ่มรู้สึกร้อน เลยบอกว่าเข้าไปถ่ายรูปกันในฮอลล์ดีกว่า ซึ่งตลอดเวลาตนรู้สึกไม่ค่อยดี หน้ามืด แต่ก็พยายามฝืนถ่ายรูปกับลูก ๆ จนลูกเกรซเข้าไปที่หอประชุมเพื่อรับปริญญา ตนเลยขอกลับบ้านก่อน ทั้ง ๆ ที่ญาติมารอถ่ายรูปด้วยแต่ตนก็ไม่ไหว และไม่ได้บอกใคร เพราะไม่อยากให้เขาเป็นกังวล จนวันที่ 17 กรกฎาคม ตนมีอาการช็อก เลยถูกนำตัวส่งเข้าโรงพยาบาล
 
 
โดยพี่เป้า เผยถึงสาเหตุที่ไม่เปิดเรื่องราวของลูก ๆ ว่า ตนอยากให้เด็ก ๆ เรียนให้จบเสียก่อน ตนกลัวว่าถ้าเปิดเผยลูกกลัวจะมีคนชักชวนเข้าวงการ แล้วลูกก็จะลืมการเรียนไป ซึ่งตนเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน เรียนก็ไม่ได้เรียน เลยอยากให้พวกเขาเรียนหนังสือให้สูงที่สุด ในโรงเรียนที่ดีที่สุด เท่าที่ตนจะมีความสามารถส่งได้ เป็นความภาคภูมิใจของตนที่ได้ดูลูกใส่ชุดนักเรียน และเฝ้าลูกที่หน้าโรงเรียน
 
 
วันที่ 24 กรกฎาคม เวลา 15.30 น.  ทางคณะแพทย์โรงพยาบาลพระราม 9 ได้รายงานผลตรวจชิ้นเนื้อตับอ่อนของ สายัณห์ สัญญา พบเซลล์มะเร็งระยะ 4 ในตับอ่อน ซึ่งเป็นระยะสุดท้าย แต่ต้องรอตรวจสอบยืนยันอีก 1 สัปดาห์ จากนี้ทีมแพทย์ก็จะทำการวางแผนการรักษาต่อไป โดยเบื้องต้น จะต้องควบคุมระดับน้ำตาล เนื่องจากสายัณห์ป่วยเป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว และต้องแก้ไขภาวะโลหิตจาง ส่วนอาการตอนนี้ตับยังทำงานเป็นปกติ แต่จะทรุดลงเรื่อย ๆ
 
 
โดยก่อนหน้านี้ สายัณห์ สัญญา ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า แม้ผลจากการเจาะชิ้นเนื้อตับอ่อนจะออกมาอย่างไรก็โอเค การเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องปกติ ไม่รู้สึกกังวลใด ๆ ดีใจมากที่เพื่อนร่วมวงการมาให้กำลังใจ ถึงหมอจะฟันธงว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายก็จะไม่มีน้ำตาสักหยด คนเราเกิดแก่เจ็บตายไม่มีใครหนีพ้น บางคนขึ้นเครื่องบินตกตายก็มี มนุษย์ทุกคนต่างมีกรรม คนเรารู้วันเกิด แต่ไม่รู้วันตาย ที่สำคัญตนเป็นคนไม่กลัวความตาย เพราะถ้ากลัวคงตายไปนานแล้ว
 
 
วันที่ 25 กรกฎาคม นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรณีโรคมะเร็งตับของ สายัณห์ สัญญา นั้น ต้องดูอีกทีว่าเป็น มะเร็งตับ หรือมะเร็งตับอ่อน เพราะมะเร็งทั้ง 2 ชนิด แตกต่างกัน คือ มะเร็งตับจะไม่กระจายไปยังตับอ่อน แต่มะเร็งตับอ่อนจะสามารถกระจายไปยังตับได้ ซึ่งหากเจอมะเร็งทั้งในตับและตับอ่อน แสดงว่าเป็นมะเร็งตับอ่อนที่กระจายตัวไปยังตับ แต่มะเร็งระยะที่ 4 จะเป็นระยะสุดท้ายทำให้มีการกระจายไปยังอวัยวะอื่นได้
 
ส่วนในการรักษานั้น มะเร็งตับอ่อน และมะเร็งตับ มีวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน หากเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้วไม่มีการรักษาเลย จะสามารถอยู่ได้ประมาณ 2-5 เดือน แต่ถ้ารักษาและได้รับยาที่เหมาะสม อาจยืดชีวิตออกไปได้ 2 เท่า คือประมาณ 10 เดือน หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการรักษาด้วย
 
 
ขณะที่ นายศุภธร จันทรกุล ผู้จัดการแผนกสื่อสารการตลาด รพ.พระรามเก้า ได้เผยถึงแนวทางการรักษาว่า ในเบื้องต้นจะทำการส่องกล้องเพื่อดูทางเดินอาหารส่วนบนและล่าง ถ้าพบว่าทุกอย่างเคลียร์ ไม่มีผลแทรกซ้อน ไม่มีการกระจายตัวไปที่อื่น ไม่มีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร ก็จะทำการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัด โดยเป็นสูตรที่ไม่ทำให้ผมร่วง และไม่มีอาการคลื่นไส้มาก ทั้งนี้ ตนคิดว่าถ้าร่างกายของนายสายัณห์ตอบสนองดี เกล็ดเลือดอยู่ในระดับดี ก็จะมีอาการฟื้นตัวได้ดีขึ้น ก้อนเนื้อร้ายยุบลง ทานอาหารได้มากขึ้น น้ำหนักตัวของคุณสายัณห์ก็จะมากขึ้น ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นไปตามนี้ ก็จะมีหวังที่ยืดเวลาให้ยาวนานมากขึ้น อย่างไรก็ดี ตนคาดว่าน่าจะเริ่มต้นทำเคมีบำบัดได้ช่วงต้นเดือนสิงหาคม
 
 
นายศุภธร กล่าวต่อว่า ในงานคอนเสิร์ต วันที่ 27 กรกฎาคมนี้ สายัณห์ สัญญา ขออนุญาตออกจากโรงพยาบาล และจะกลับมาอีกครั้งเพื่อทำการส่องกล่อง ซึ่งหากไม่มีผลแทรกซ้อนใด ๆ ก็จะแอดมิดทำการรักษาโรคมะเร็งโดยเฉพาะ ส่วนในงานคอนเสิร์ตทางแพทย์ได้ระบุกับผู้ป่วยไปแล้วว่าอะไรที่สุ่มเสี่ยงต่อสุขภาพขอให้ระมัดระวังตัวเอง เพราะแพทย์ไม่สามารถไปกำกับบนเวทีคอนเสิร์ตได้ ซึ่งผู้ป่วยเองก็ต้องประมาณตัวด้วยว่าสามารถทำอะไรได้เท่าไร อาจจะแค่ให้แฟนเพลงเห็นหน้า หรือมีการพูดคุยเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็พอแล้ว ส่วนการร้องเพลงบนเวทีนั้น ทางแพทย์ก็เป็นห่วง เพราะจะทำให้เหนื่อยได้
 
 
27 กรกฎาคม นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โพสต์ข้อความลง เฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra ขอแฟนเพจ ร่วมกดไลค์เป็นกำลังใจให้ นายสายัณห์ สัญญา
 
 
นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเดินทางมาเยี่ยมสัญญาในนามของบิดา
 
 
ทั้งนี้ นายพานทองแท้ ระบุว่า ตนเองได้มีโอกาสไปเยี่ยมนายสายัณห์ มาในนามของบิดาที่โรงพยาบาลพระรามเก้า เพราะบิดาของตนเองมีความชอบ นายสายัณห์ สัญญา เป็นการส่วนตัว อีกทั้ง คำว่า "รักสายัณห์น้อย ๆ แต่รักสายัณห์นาน ๆ" นั้น บิดา ก็มักจะนำมาพูดเล่นมุกบนเวทีเสมอ ๆ ตลอดจน นายสายัณห์ ยังเป็นคนสู้ชีวิต เรียนจบแค่ ป.4 แต่ชอบร้องเพลง จนเป็นนักร้องลูกทุ่งที่โด่งดังจนถึงทุกวันนี้ ภายใต้ฉายา "แหบมหาเสน่ห์" จึงอยากขอให้แฟนเพจ ช่วยส่งแรงใจให้นายสายัณห์ และขอให้มีกำลังใจต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บจนหาย และกลับมาร้องเพลงให้ฟังอีกครั้ง
 
พร้อมกันนี้ นายพานทองแท้ ยังได้โพสต์รูปภาพที่ถ่ายคู่กับกับนายสายัณห์ด้วย
 
 
 
วันที่ 13 สิงหาคม นางวรรณพร สัมฤทธิ์ ภรรยา ซึ่งได้รับการเปิดเผยว่า คืนวันที่ 13 ส.ค. นั้น พี่เป้ามีอาการไข้ขึ้น ตัวสั่น แต่พอได้ทานยาแก้ไข้ ตอนเช้ามาก็อาการดีขึ้น คืออาการตอนนี้ต้องดูกันวันต่อวันจริง ๆ อะไรที่ไม่ดีก็แก้ไขกันไปเรื่อย ๆ อาหารก็ทานได้บ้างไม่ได้บ้าง บางมื้อก็ทานได้เยอะ บางมื้อก็ไม่ทานเลย โรคอย่างนี้มันคงต้องใช้เวลา และพี่เขาก็เป็นเยอะ อย่างที่หมอบอกว่าตอนนี้ก็เป็นช่วงอันตรายที่ต้องระวัง โดยเฉพาะการติดเชื้อ เพราะสามารถจะติดเชื้อในกระแสเลือดได้ง่าย แต่เท่าที่ทานยาก็มีอาการหลายอย่างดีขึ้น อย่างอาการบวมตามมือตามเท้าก็มีบวมน้อยลง แต่บางอย่างก็ต้องรักษากันไปเรื่อย ๆ และตอนนี้ก็ต้องทานยาเยอะ มีทั้งก่อนอาหาร หลังอาหาร มีทั้งวิตามินและเกลือแร่ บางทีพี่เขาก็รู้สึกท้อไม่อยากทานยา ก็มีดื้อบ้าง เพราะกินยาไปไม่ทันไร พอถึงมื้ออาหารก็ต้องกินอีกแล้ว บางทีเขาก็ขอนอนก่อน ทำให้ยืดระยะเวลากินยาไปอีก ก็เข้าใจเขาว่ากินยาทุกวันอาจจะเบื่อ บางช่วงก็มีอาการเหนื่อย แน่นหน้าอก ที่จะขึ้นคอนเสิร์ตวันที่ 16 ส.ค. นี้ ลูก ๆ ยังบ่นว่าไม่อยากให้ไปเป็นห่วงเพราะเดินทางไกล แต่ก็คงห้ามอะไรไม่ได้วันนั้นตนก็คงไปด้วย คาดว่าจะออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 13.00 น. โดยทางหมอก็ได้เตรียมรถพยาบาลที่มีเครื่องมือพร้อมมารับในวันนั้นด้วย
 
 
วันที่ 16 สิงหาคม สายัณห์ สัญญา ว่า ขณะนี้มะเร็งตับอ่อนระยะสุดท้ายกำเริบหนัก ต้องนอนให้สารอาหารอยู่ที่โรงพยาบาลธนบุรี แต่แววตาของพี่เป้ายังเต็มไปด้วยความหวังที่จะเดินทางไปขึ้นคอนเสิร์ตอำลาแฟนเพลงที่ จ.สุพรรณบุรี โดยมีภรรยาและลูกสาวเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง
 
 
ทั้งนี้ นายมานิตย์ อังกินันทน์ ผู้จัดการส่วนตัว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพี่เป้าไข้ขึ้นสูงและมีอาการตัวสั่น จึงไม่อยากให้ไปไหน แต่ถ้าเจ้าตัวดื้อก็คงต้องให้ญาติเซ็นยินยอมเพราะทางโรงพยาบาลจะไม่รับผิดชอบหากเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้ถ้าพี่เป้าจะไปขึ้นคอนเสิร์ตก็คงไปได้แค่โชว์ตัวเท่านั้น เพราะพี่เป้าคงไม่สามารถร้องเพลงได้แน่นอน
 
 
นายมานิตย์ กล่าวต่อว่า ส่วนช่วงบ่ายพี่เป้าไข้สูงขึ้นถึง 40 องศาเซลเซียส ร่างกายมีอาการตอบสนองน้อยลง พูดได้ว่าอาการอยู่ในขั้นวิกฤติ จึงเกรงว่าอาจช็อกได้หากห่างมือหมอ อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวยังพยายามฝืนยิ้มสู้ตลอด
 
 
ครอบครัวนิมนต์พระทำบุญต่ออายุ  ขณะที่ นางวรรณพร สัมฤทธิ์ ภรรยา เผยว่า จะนิมนต์พระภิกษุมาให้สามีทำบุญถวายอาหาร พร้อมเปิดใจว่าส่วนตัวไม่อยากพี่เป้าไปขึ้นคอนเสิร์ต
 
 
ส่วนทางด้าน นพ.วชิรบุณย์ ศาสตรารุจิ รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.ธนบุรี แถลงว่า อาการของพี่เป้า สายัณห์ ขณะนี้พบว่ามีส่วนของเนื้องอกที่ตับอ่อนกระจายตัวไปยังตับและม้าม ทำให้สภาพการทำงานของตับบกพร่อง จึงให้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งตอนนี้สิ่งที่แพทย์กังวลคือถ้าป่วยเฉย ๆ อาการก็ไม่น่าจะซึมขนาดนี้ คงต้องตรวจเรื่องสมองอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนอาการของโรคเบาหวานและแร่ธาตุที่ผิดปกติในร่างกายก็น่าห่วง จึงพยายามควบคุมให้สารอาหารอย่างพอเพียง และอาจจะต้องนำเข้าเครื่องตรวจสแกนระบบประสาทในช่วงเย็น เพื่อดูว่าเชื้อลุกลามไปถึงสมองหรือไม่ ถ้าหากเชื้อลามขึ้นสมองก็ถือว่าอาการหนักมาก ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว
 
 
นพ.วชิรบุณย์ กล่าวต่อว่า การทำงานในร่างกายของสายัณห์ สัญญา ไม่ค่อยดีแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของตับ และยิ่งมีเรื่องเบาหวานอีก ทางแพทย์จึงต้องพยายามควบคุมรักษาระบบต่าง ๆ ไว้ให้ได้ เพื่อทำให้การแข็งตัวของเลือดดีขึ้น ส่วนการฉายแสงมะเร็งคงไม่สามารถทำได้ และการทำเคมีบำบัดก็ต้องรอให้คนไข้แข็งแรงกว่านี้ก่อน
 
ครอบครัวของคุณสายัณห์ ได้นิมนต์พระวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน มาที่โรงพยาบาลธนบุรีให้สายัณห์ ได้ทำบุญใส่บาตร สร้างกุศลต่ออายุ ก่อนเข้าเครื่องตรวจสแกนสมองและตรวจเลือดหลังมีอาการทรุดลง
 
ล่าสุดผลตรวจของคณะแพทย์พบว่า เชื้อมะเร็งลามไปที่ตับและม้ามเพิ่มขึ้นจากเดิม ทำให้มีอาการเบลอ ซึม ไม่พูดจาและไม่ตอบสนองโดยเย็นวันนี้แพทย์จะนำสายัณห์ไปตรวจซีทีสแกนอีกครั้งเพราะคาดว่าเชื้อมะเร็งจะลามขึ้นไปที่สมอง ตอนนี้คนไข้ถือว่าอยู่ในภาวะวิกฤตต้องดูเป็นรายชั่วโมง และไม่สามารถไปร่วมงานคอนเสริ์ต "ขวัญใจคนเดิม สายัณห์ สัญญากลับบ้านสุพรรณ" ที่จัดขึ้นที่อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี ในเย็นวันนี้ได้
 
 
และในวันที่ 19 สิงหาคม ทางแพทย์ ได้ทำการตรวจเลือดของ เป้า สายัณห์ เพื่อตรวจหาเชื้อมะเร็ง และโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไต และล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. นพ.ประสิทธิ์ เจียรกุล แพทย์เจ้าของไข้ ได้ออกมาเปิดเผยถึง ผลการตรวจเลือดของ สายัณห์ สัญญา ว่า ตามผลเลือดที่ได้ พบว่า ค่าอัลบูมินลดลง ส่งผลให้เกิดอาการบวมที่ขาและหลัง ซึ่งถ้ามีอาการบวมนาน ๆ จะทำให้การทำงานของตับทรุดลงอีก นอกจากนี้ ยังส่งผลให้มีของเสียค้างอยู่ในร่างกาย
 
 
ขณะที่การทำงานของไตเป็นปกติดี แต่พบว่ามีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเล็กน้อย และสำหรับการการตรวจเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว และความแข็งตัวของเลือดนั้น ยังไม่สามารถทำการตรวจได้ เนื่องจาก สายัณห์ สัญญา ไม่ให้ความร่วมมือในตอนที่เจาะเลือด ทำให้ได้เลือดไม่มากพอที่จะตรวจ จึงต้องรอตรวจใหม่อีกครั้งเมื่อผู้ป่วยพร้อม
 
 
วันที่ 26 สิงหาคม นายแพทย์ประสิทธิ์ เจียรกุล แพทย์เจ้าของไข้นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง สายัณห์ สัญญา เปิดเผยถึงอาการในวันนี้ของสายัณห์ ว่า ผู้ป่วยมีไข้ต่ำ 37.7 องศา ในช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังเท้าทั้งสองข้าง ยังมีอาการบวมเล็กน้อย แต่ไม่น่าเป็นห่วง น้ำหนักเพิ่มขึ้นจากวันที่ 23 สิงหาคม 1.5 กิโลกรัม และผู้ป่วยสามารถทานอาหารได้ปกติ รวมถึงอาหารเสริม ทางทีมแพทย์เฝ้าระวังอาการเบาหวานอย่างต่อเนื่อง แต่ สายัณห์ ยังคงปฏิเสธการเจาะเลือด วัดความดัน และการรับคีโมอยู่
 
 
วันที่ 31 สิงหาคม เป็นงานคอนเสิร์ตวันแรกของ สายัณห์ ซึ่งถึงแม้อาการสายัณห์ จะน่าเป็นห่วง เพราะเข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้ง อีกทั้ง แพทย์ยังเผยว่าอาการโรคมะเร็งตับระยะสุดท้ายของพี่เป้า เริ่มลุกลามจากตับไปยังส่วนอื่น ๆ และไม่อยากให้พี่เป้าขึ้นคอนเสิร์ตในครั้งนี้ เนื่องจากกลัวจะทรุดหนักมากกว่าเดิม แต่ทว่าพี่เป้า สายัณห์ สัญญา ก็ยังยืนยันที่จะขึ้นบนเวทีคอนเสิร์ตดังกล่าวให้ได้ เพื่อขอบคุณแฟนเพลงอันเป็นที่รักที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด
ทั้งนี้ เมื่อถึงกำหนดการเดินทางไปจากโรงพยาบาลธนบุรี ไปยังวัดไร่ขิง จ.นครปฐม ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานดังกล่าว ทางทีมแพทย์ได้เตรียมรถพยาบาลพร้อมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและพยาบาลเพื่อดูแลพี่เป้าอย่างใกล้ชิด โดย นพ.ประสิทธิ์ เจียรกุล ผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.ธนบุรี แพทย์เจ้าของไข้ ระบุว่า ได้ตรวจชีพจรของคนไข้ พบว่าการเต้นของชีพจรดี พูดคุยรู้เรื่อง ไม่ค่อยสับสน ส่วนอาการบวมนั้นลดลง แต่ตัวยังเหลืองเหมือนเดิม ซึ่งตนดูแล้วคิดว่าคนไข้น่าจะแข็งแรงพอที่จะขึ้นเวทีคอนเสิร์ต แต่ทั้งนี้จะขึ้นได้นานหรือไม่นั้น ต้องดูที่ความแข็งแรงของร่างกาย
 
 
นพ.ประสิทธิ์ ยังกล่าวต่อว่า สำหรับสิ่งที่ตนเป็นห่วงคือกลัวโรคแทรกซ้อน และไม่อยากให้โดนฝนเพราะกลัวจะทรุดลงมากกว่านี้ ในส่วนเรื่องความจำของพี่เป้านั้น ยังอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ก็ยังมีภาวะของสมองที่มักเห็นภาพและเสียงเก่า ๆ ในอดีต ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานสมองที่ไม่ค่อยดีแล้ว เพราะของเสียที่ไม่ถูกขับถ่านออกมาจะถูกดูดซึมไปที่สมองแทน
 
 
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. สายัณห์ ได้นั่งรถวีลแชร์ออกมาจากห้องพัก เพื่อขึ้นรถตู้ไปยังงานคอนเสิร์ตดังกล่าว โดยพี่เป้าได้สวมเสื้อที่มีคำว่า "ขวัญใจคนเดิม สายัณห์ สัญญา สวมกางเกงยีนส์ และหมวกไหมพรม โดยมี นางวรรณพร สัมฤทธิ์ ภรรยา และนายมานิตย์ อังกินันทน์ ผู้จัดการส่วนตัวคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
 
 
จากนั้น สายัณห์ และทีมแพทย์ ก็ได้เดินทางถึงยังที่หมาย เมื่อเวลา 18.00 น. โดยบริเวณงานดังกล่าวมีแฟนเพลง 2-3 พันคนเฝ้ารอคอยพี่เป้าอย่างใจจดใจจ่อ และเมื่อพี่เป้าลงจากรถแฟนเพลงก็กรูกันมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก พร้อมทั้งปรบมือแสดงความยินที่พี่เป้าเดินทางมาถึง โดยพี่เป้าได้นั่งโบกมือตลอดเวลาขณะที่รอคิวขึ้นเวที และระหว่างนั้นแพทย์ก็ได้ให้ดื่มน้ำเกลือแร่ด้วย
 
 
ทั้งนี้ ลุงเอี่ยม คัมภิรานนท์ ขอทานใจบุญแห่งวัดไร่ขิง ที่เดินทางมาร่วมงานนี้ด้วย ก็ได้มอบเงินจำนวน 1 แสนบาท เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของพี่เป้า พร้อมมอบพระพุทธรูปหลวงพ่อวัดไร่ขิง ขนาดหน้าตัก 10 นิ้วอีกจำนวน 1 องค์ ให้แก่ สายัณห์ ไว้เป็นสิริมงคลด้วย และกล่าวอวยพรว่า ขอให้หายป่วยไว ๆ และมีสุขภาพแข็งแรงยืนยาว
 
 
"กระทั่งเมื่อเวลา 19.30 น. พี่เป้า สายัณห์ ก็ได้ขึ้นเว���ี พร้อมกล่าวว่า"...
"ก่อนอื่น สายัณห์ สัญญา ขอกราบสวัสดีแฟนเพลงพี่น้องชาววัดไร่ขิง นครปฐม และพี่น้องชาวไทย จ.นครปฐม ทุก ๆ ท่าน ขอบคุณมาก ๆ สำหรับแฟนเพลงที่มารอคอยตนอย่างเนืองแน่น ขอเป็นขวัญใจคนเดิมทุกคน จากนั้น พี่เป้า สายัณห์ พยายามลุกขึ้นยืนพร้อมกับชูนิ้วมือ 2 นิ้ว เหมือนเป็นสัญลักษณ์ว่าตัวเองยังสู้อยู่
 
หลังจากที่สายัณห์ สัญญา ได้เดินทางไปขึ้นคอนเสิร์ต "รวมพลคนรักพี่เป้า สายัณห์ สัญญา" ที่วัดไร่ขิง จ.นครปฐม เมื่อคืนวันที่ 31 สิงหาคม 2556 และได้รับปากว่าจะขึ้นคอนเสิร์ตอีกครั้งในวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา โดยในงานคอนเสิร์ตวันที่ 31 สิงหาคมนั้น ถึงแม้พี่เป้าจะมีสีหน้าที่อิดโรย มีอาการอ่อนเพลีย แต่ก็ขอขึ้นเวทีเพื่อกล่าวขอบคุณแฟน ๆ ด้วยตัวเอง
 
ทั้งนี้ หลังจากงานคอนเสิร์ตดังกล่าว ด้านคุณปิ๋ม วรรณพร สัมฤทธิ์ ภรรยาของพี่เป้า เปิดเผยว่า พี่เป้ามีอาการอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด ทางทีมงานจึงรีบพาขึ้นรถกลับโรงพยาบาลในทันที และเมื่อมาถึงก็พบว่าพี่เป้ามีไข้อ่อน ๆ วัดได้ 38 องศาฯ จึงให้ทานยาลดไข้และยาบำรุงที่แพทย์จัดให้
 
แต่แล้วเมื่อถึงงานคอนเสิร์ตวันที่ 2 ที่วัดไร่ขิง มีรายงานว่า ในช่วงเวลา 20.30 น. ซึ่งเป็นคิวของพี่เป้า สายัณห์ สัญญา ขึ้นเวที กลับไม่สามารถขึ้นเวทีคอนเสิร์ตได้ เนื่องจากมีอาการทรุดอย่างเห็นได้ชัด หน้าตาอ่อนเพลีย ตาลอย ทาง นายมานิตย์ อังกินันทน์ ผู้จัดการส่วนตัว จึงได้รีบพากลับโรงพยาบาลเป็นการด่วน
 
เมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่อาคารเอสเค เรสซิเด้นซ์ สะพานพระปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นที่พัก นางวรรณพร สัมฤทธิ์ ภรรยาของนายสายัณห์ สัญญา เปิดเผยว่า หลังจากขึ้นเวทีพบปะแฟนเพลงที่วัดไร่ขิง พี่เป้ามีอาการอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด ทีมงานจึงพาขึ้นรถกลับทันที เมื่อมาถึงพบมีไข้อ่อนๆ วัดได้ 38 องศา จึงให้ดื่มนม ยาลดไข้ และยาบำรุงที่แพทย์ รพ.ธนบุรีจัดให้ นอกจากนี้ยังคงให้ยาเม็ดที่มีจุลินทรีย์ที่สามารถเข้าไปฆ่าเชื้อมะเร็งได้ ที่แฟนเพลงที่เป็นแพทย์นำมาให้
 
นายมานิตย์ อังกินันทน์ ผู้จัดการส่วนตัวของสายัณห์ กล่าวถึงโครงการสานฝันหาลูกศิษย์คนแรกและคนสุดท้ายให้แก่สายัณห์ ว่า มีผู้สนใจติดต่อเข้ามามากมาย ส่วนมากจะถามว่าอัดเสียงต้องมีดนตรีหรือไม่ ซึ่งถ้าจะให้ดีก็อัดเสียงมาเพียวๆ เลยก็ดีเพราะต้องการฟังเสียง โดยผู้สมัครจะต้องเป็นชาย อายุ 17-25 ปี สามารถร้องเพลงของสายัณห์ได้ โดยอัดเสียงลงในซีดีส่งมาที่ บริษัท เอส เค เรสซิเด้นซ์ จำกัด เลขที่ 185 ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. 10700 โดยผู้ถูกคัดเลือก นอกจากจะได้เป็นลูกศิษย์คนแรกและคนสุดท้ายตามความฝันของสายัณห์ ที่ต้องการมีลูกศิษย์ของตัวเองแล้ว ยังจะได้ใช้นามสกุล "สัญญา" อย่างเป็นทางการอีกด้วย ซึ่งอาจจะประกาศผลกันวันคอนเสิร์ตวันอำลาขวัญใจคนเดิมสายัณห์สัญญาในครั้งสุดท้ายที่เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ ในวันที่ 14 กันยายนนี้
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างทางที่ "สายัณห์" ไปขึ้นคอนเสิร์ตที่วัดไร่ขิงเป็นที่ 2 เพื่อขอบคุณแฟนเพลง ปรากฏว่ามีไข้ขึ้นสูง แพทย์จึงนำเข้ารักษาที่โรงพยาบาลธนบุรีเป็นการด่วน โดยสันนิฐานเบื้องต้นว่าติดเชื้อในกระแสเลือด นายมานิตย์ให้สัมภาษณ์ถึงอาการล่าสุดว่า พี่เป้าหัวใจเต้นแรง ตัวร้อนสูง สะลึมสะลือ จึงพาส่งโรงพยาบาลธนนบุรี ขณะที่นายแพทย์ประสิทธิ์ เจียรกุล ผอ.ฝ่ายการแพทย์รพ.ธนบุรี เจ้าของไข้แถลงผลการตรวจเบื้องต้นว่า สาเหตุเกิดจากเซ็ลมะเร็งบางส่วนที่ตายไปเพราะเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ ส่งผลให้เชื้อแพร่กระจายเข้าไปในกระแสเลือด ทำให้มีไข้สูงและตัวเหลืองเพิ่ม วิธีการรักษาก็คือเพาะเชื้อแล้วถึงให้ยาฆ่าเชื้อ จึงถือว่าอาการโดยรวมตอนนี้น่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตามจะแถลงเป็นทางการอีกครั้งเวลา 11.00 น. วันที่ 2ก.ย.นี้ 
 
 
และล่าสุดวันที่ 11 กันยายน 2556 พี่เป้า สายัณห์ สัญญา นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ได้เสียชีวิตแล้วอย่างสงบเมื่อเวลา 12.35 น. หลังป่วยด้วยโรคมะเร็งตับ ญาติเตรียมเคลื่อนศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม ต่อไป
 
 

 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog