กลุ่มพระสงฆ์หัวรุนแรง ซึ่งเคลื่อนไหวต่อต้านชาวมุสลิมในเมียนมาร์ ลงนามข้อตกลงสันติภาพกับผู้นำชาวมุสลิม หวังยุติความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่าย หลังเกิดเหตุจลาจลในเมียนมาร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยราย ตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมา

แกนนำพระสงฆ์ที่ถูกกล่าวหาว่าเคลื่อนไหวก่อความไม่สงบ และปลุกเร้าเหตุรุนแรงต่อต้านชาวมุสลิม ในประเทศเมียนมาร์ ได้ลงนามในข้อตกลงสันติภาพร่วมกับแกนนำชาวมุสลิม และชาวคริสต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงระหว่างชาวพุทธ และชาวมุสลิม ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา

การลงนามสันติภาพครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมผู้แทนต่างศาสนา 25 คน จากทั่วเมียนมาร์ เป็นเวลา 2 วัน ในนครย่างกุ้ง โดยผู้ร่วมการประชุมรวมถึงพระวีระธุ เจ้าของฉายา"บินลาดินแห่งเมียนมาร์" ซึ่งเป็นแกนนำพระสงฆ์หัวรุนแรงกลุ่ม "969" ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ยุยงการประท้วงต่อต้านชาวมุสลิมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

พระวีระธุกล่าวว่า เขาเดินทางไปลงนามสันติภาพในครั้งนี้ เนื่องจากพบต้นตอของปัญหา และพบทางแก้ไขความวุ่นวาย ซึ่งถึงเวลาแล้วที่เมียนมาร์ต้องมีสันติภาพกลับคืนมาอีกครั้ง

ด้านนายซอ จี แกนนำชาวมุสลิมเปิดเผยว่า มีพระสงฆ์หัวรุนแรงในขั้วตรงข้ามที่ไม่สนับสนุนความขัดแย้ง และชาวมุสลิมก็ต้องการสันติภาพระหว่าง 2 ศาสนาโดยเร็ว ข้อตกลงสันติภาพดังกล่าวยังครอบคลุมการประสานงานโดยตรง ระหว่างแกนนำระดับสูงของชาวพุทธและมุสลิม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาความรุนแรงอีกครั้ง

เหตุการณ์ความรุนแรงระหว่างชาวพุทธ กับชาวมุสลิม ในเมียนมาร์ ปะทุขึ้นเมื่อเมื่อปีที่แล้ว โดยเริ่มจากรัฐยะไข่ ทางภาคตะวันตก ซึ่งมีชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมเชื้อสายโรฮิงญาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ก่อนกระจายออกไปยังส่วนต่างๆของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 237 ราย และไร้ที่อยู่อาศัยอีก 150,000 คน