หลังยืดเยื้อมานานเกือบ 10 ปี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษา คดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง กรุงเทพมหานคร โดยคำพิพากษาจำคุกคุณ ประชา มาลีนนท์ 12 ปี พลตำรวจตรีอธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ 10 ปี 

 

 

องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีมติเสียงข้างมาก จำคุกคุณประชา มาลีนนท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จำเลยที่ 2 เป็นเวลา 12 ปี ในความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือฮั้วประมูล 2542 มาตรา 12 และ 13 ซึ่งเป็นบทลงโทษหนักที่สุด 

 

 

และจำคุก 10 ปี พลตำรวจตรีอธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร จำเลยที่ 4 ในความผิด เดียวกัน 

 

 

จากกรณีที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผลักดันมีการให้เร่งรัดสั่งซื้ออุปกรณ์ครุภัณฑ์บรรเทาสาธารณภัยตามโครงการพัฒนาระบบและบริหารการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2547 ฝ่าฝืนมติคณะรัฐมนตรี  ข้อบัญญัติของการบริหารราชการกรุงเทพมหานคร และระเบียบการจัดซื้อ จนทำให้การสั่งซื้อสินค้าเอื้อประโยชน์กับ บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จำกัด จำเลยที่ 5 ในคดีนี้ ให้ได้รับประโยชน์ร้อยละ 48.77 จากงบประมาณจัดซื้อกว่า 6 พัน 6 ร้อยล้านบาท โดยไม่มีการเปรียบเทียบราคา 

 

 

ส่วนคุณโภคิน พลกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จำเลยที่ 1 คุณวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จำเลยที่ 3 และคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร จำเลยที่ 6 ศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด 

 

 

ด้าน อดีตประธาน คตส. คุณ นาม ยิ้มแย้ม ในฐานะอดีตประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง เปิดเผยภายหลังทราบผลคำพิพากษาของศาลฎีกาว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด ทุกคนต้องเคารพคำตัดสินของศาล แต่คดีนี้จะเป็นอุทาหรณ์ของนักการเมืองและข้าราชการประจำว่า อย่าคิดว่ามีอำนาจจะทำอะไรก็ได้ และจะไม่โดนตรวจสอบ สอบสวน เพราะการเมืองและการมีอำนาจไม่ได้ยั่งยืน