ไม่พบผลการค้นหา
กรุงปักกิ่งของจีนยกระดับมาตรการควบคุมการระบาดโควิด-19 ด้วยการเพิ่มระดับการตรวจคัดกรองในที่สาธารณะ และการประกาศล็อกดาวน์ในพื้นที่ หลังจากปักกิ่งมีรายงานตัวเลขการติดเชื้อเพิ่มขึ้น 4 เท่าจากสัปดาห์ก่อน ในขณะที่การประชุมของสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์กำลังเข้าสู่โค้งสุดท้าย

ปักกิ่งซึ่งมีประชากรอยู่ราว 21 ล้านคน พบรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในวันนี้ (20 ต.ค.) เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 18 ราย ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อสะสมตลอดระยะเวลา 10 วันที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็น 197 ราย มากกว่าตัวเลขการติดเชื้อสะสม 49 ราย ตลอดช่วงระยะเวลา 10 วันก่อนหน้า

แม้ตัวเลขการติดเชื้อโควิด-19 ในจีนจะต่ำกว่าชาติอื่นๆ ในเชิงเปรียบเทียบอยู่หลายเท่าตัว แต่ด้วยนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาลจีนที่ยังคงบังคับใช้อยู่ ส่งผลให้ทางการของกรุงปักกิ่งยกระดับมาตรการควบคุมการระบาดในทันที โดยเฉพาะยิ่ง ในขณะที่การประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเกิดขึ้น 1 ครั้งในทุกๆ 5 ปี กำลังจัดขึ้นในกรุงปักกิ่งเช่นกัน เช่นเดียวกันกับการคาดการณ์ว่า สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จะได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีต่อในวาระที่ 3

หน่วยงานด้านสาธารณสุขของกรุงปักกิ่ง เรียกร้องให้มีการตรวจคัดกรองบุคคลที่มีความเสี่ยงอย่างเข้มงวดให้มากยิ่งขึ้น และขอให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน ต่อผู้คนที่เดินทางเข้าไปในสถานที่แออัด รวมทั้งซูเปอร์มาร์เก็ตและโรงยิม นอกจากนี้ สถานที่อยู่อาศัยของประชาชนบางแห่งซึ่งมีผู้สัมผัสใกล้ชิด ถูกประกาศล็อกดาวน์เป็นเวลา 3 วัน ซึ่งอาจมีการขยายเวลาออกไปได้อีก หากมีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในสถานที่นั้นๆ โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขปักกิ่งระบุว่า มาตการดังกล่าวเป็นไปเพื่อ “ทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครแม้แต่คนเดียวถูกมองข้ามไป”

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ทางการจีนได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนยังคงยึดมั่นในการปฏิบัติตามมาตรการโควิดเป็นศูนย์ แม้ว่าเสียงความไม่พอใจจากสาธารณชน รวมถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจจีนที่ถดถอยลงไปจากเดิม สืบเนื่องจากการล็อกดาวน์และการปิดประเทศตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า จีนจำเป็นจะต้องผ่อนมาตรการดังกล่าวลงในเร็วๆ นี้ เพื่อไม่ให้สถานการณ์เศรษฐกิจประเทศย่ำแย่ลงไปกว่าเดิม

ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (16 ต.ค.) สีได้ประกาศในการกล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อตอกย้ำถึงความสำเร็จของนโยบายโควิดเป็นศูนย์ แม้ว่ามาตรการดังกล่าวจะโดดเดี่ยวจีนออกจากบริบทโลก ที่กำลังค่อยๆ กลับมาใช้ชีวิตกันตามความปกติใหม่ โดยสีย้ำว่ามาตรการโควิดเป็นศูนย์เป็นการ “นำประชาชนและชีวิตของพวกเขามีก่อนสิ่งอื่นใด”

นโยบายโควิดเป็นศูนย์ถูกคัดค้านมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานพบเด็กหญิงวัย 16 ปีเสียชีวิตจากสถานกักกันโควิด-19 ในจีน หลังจากครอบครัวของเธอเพิกเฉยต่อความช่วยเหลือทางการแพทย์ ยังมีเหตุรถบัสชนกันจนมีผู้เสียชีวิต 27 ราย ซึ่งกำลังถูกนำตัวไปยังสถานกักกันโรค จนส่งผลให้โซเชียลมีเดียจีนวิพากษ์วิจารณ์กรณีดังกล่าวที่เป็นผลมาจากมาตรการของสีอย่างรุนแรง

ในอีกทางหนึ่ง เซี่ยงไฮ้ยังเป็นอีกเมืองหนึ่งของจีนที่เจอกับการระบาดของโควิด-19 เป็นระยะๆ โดยในสัปดาห์นี้ เซี่ยงไฮ้กำลังวางแผนที่จะสร้างสถานกักกันโรคขนาด 3,250 เตียงบนเกาะเล็กๆ ใกล้กันกับใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ โดยตั้งแต่เดือน เม.ย.ถึง พ.ค.ที่ผ่านมา เซี่ยงไฮ้ที่มีพลเมืองกว่า 25 ล้านคน เจอกับมาตรการล็อกดาวน์อย่างรุนแรง รวมถึงการตรวจหาเชื้อในประชาชนกว่าหลายแสนราย เช่นเดียวกันกับปักกิ่งและกวางโจว ที่ต่างก็มีสถานกักกันโรคจำนวนหลายพันเตียง เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อตามมาตรการโควิดเป็นศูนย์ด้วย


ที่มา:

https://www.theguardian.com/world/2022/oct/20/beijing-steps-up-covid-measures-as-cases-quadruple-during-key-ccp-congress-meeting?CMP=Share_iOSApp_Other&fbclid=IwAR1eEn2XF9OxahAEvEwvckngiQQMsRz_SSvWMQkK3tdC6-JVKhIk2ZSp7Rk