ไม่พบผลการค้นหา
เชียงใหม่ยังครองแชมป์ค่ามลพิษในอากาศวิกฤตหนักที่สุดในโลกเป็นอันดับ 1 ต่อเนื่อง 3 วันติดต่อกัน เช้านี้ยิ่งหนักขึ้น หมอกควันขาวโพลนเหนือท้องฟ้าเมืองเชียงใหม่ ประชาชนและนักท่องเที่ยวตื่นตัวป้องกันตนเองจากฝุ่นพิษ

สถานการณ์หมอกควัน และไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือส่งผลกระทบกับสภาพอากาศที่เกิดมลพิษเข้าขั้นวิกฤตต่อเนื่องทั้ง 9 จังหวัด โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่หัวเมืองท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของภาคเหนือ พบว่าค่ามลพิษในอากาศพุ่งสูงที่สุดในรอบปี และเข้าขั้นวิกฤติหนักต่อเนื่องนานติดต่อกัน

ขณะเดียวกันจากข้อมูลของ เว็บไซต์ www.airvisual.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์วัดคุณภาพอากาศของทั่วโลก พบว่าจากการเปรียบเทียบดัชนีคุณภาพอากาศหรือค่า AQI จากหัวเมืองใหญ่จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก พบว่าค่ามลพิษในอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ยังพบว่าวิกฤติหนักที่สุดเปนอันดับ 1 ของโลก ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แล้ว เมื่อในเวลา 09.00 น.ของประเทศไทย โดยพุ่งขึ้นสูงกว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาวัดได้ 210 AQI ส่วนอันดับ 2 เป็นของกรุงอูลานบาตอร์ เมืองหลวงของมองโกเลีย 185 AQI อันดับ 3 กรุงธากาของบังกลาเทศ 180 AQI 

ขณะที่ข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าเช้านี้เมื่อเวลา 09.00 น. ค่ามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีอนุภาคต่ำกว่า 2.5 ไมครอน หรือค่า PM2.5 เกือบทุกจุดเพิ่มขึ้น เกินค่ามาตรฐานที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.ช้างเผือก อ.เมือง วัดได้ 141 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง วัดได้ 126 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร  

อย่างไรก็ตามจากวิกฤติหมอกควันที่ต่อเนื่องมา 4 วันติดต่อกันส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่เอง รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่ออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือเดินเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวเริ่มตระหนักถึงปัญหาสุขภาพที่ได้รับโดยตรง ส่วนมากมีอาการแสบตา แสบคอ แสบจมูก บางส่วนก็เกิดอาการกำเริบจากโรคภูมิแพ้ จากฝุ่นควัน ทำให้ต้องหาทางป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งตอนนี้ยังพอหาซื้อได้ตามร้านขายยาของเอกชน ซึ่งส่วนใหญ่เลือกที่จะใช้หน้ากากอนามัยชนิดที่ป้องกันฝุ่นละอองขนาด 2.5 ไมครอนได้ แม้จะแพงกว่าแต่สร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่จะเป็นต้องออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้งกัน แต่ส่วนใหญ่ต้องใช้วิธีหลีกเลี่ยงที่จะออกมา รวมทั้งงดการออกกำลังกายกลางที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

คพ.ส่งหนังสือถึงพม่าขอความร่วมมือป้องกันไฟป่า

ด้านนายสุนทร กันทะมาลา นักอุตุนิยมวิทยาปฏิบัติการ สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดแม่ฮ่องสอน รายงานเกี่ยวกับ สภาพอากาศของจังหวัดแม่ฮ่องสอนว่า อุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้ ( 13 ) วัดได้ 15.9 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิที่ต่ำมีผลต่อหมอกควันไฟป่า เนื่องจากความกดอากาศได้กดกลุ่มควันให้ปกคลุมตัวเมืองแม่ฮ่องสอน และส่งผลให้ค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน มีค่าเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ค่าทัศนวิสัยในการมองเห็นสำหรับการบิน พบว่า เมื่อเวลา 08.00 น.วัดค่าทัศนวิสัยในการมองเห็น ประมาณ 3,000 เมตร คาดว่าในวันนี้ (13 มี.ค.) เครื่องบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ อาจจะต้องยกเลิกเที่ยวบิน เนื่องจากค่าทัศนวิสัยในการบิน ของเครื่องบินแบบ ATR-72 ต้องไม่ต่ำกว่า 6,000 เมตร

13-3-2562 13-30-14.jpg

ในส่วนของการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า แต่ละอำเภอได้รับนโยบายจากทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในการจัดเวรยามของราษฎรแต่ละหมู่บ้าน เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าไปเผาป่า และมีการซักซ้อมการดับไฟป่าในทุกอำเภอและทุกหมู่บ้าน แต่ปรากฏว่า ในทุกวันนี้ปัญหาไฟป่า ไม่ได้เกิดบริเวณพื้นที่รอบ ๆ หมู่บ้าน แต่กลับมีการลักลอบจุดไฟเผาป่า บริเวณป่าใกล้แนวชายแดน และป่าที่อยู่ห่างไกลจากเส้นทางคมนาคม ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปทำการดับไฟป่าได้ ส่งผลให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้นทุกวัน

ปัญหาเกี่ยวกับหมอกควันไฟป่า ได้เป็นเรื่องระหว่างประเทศไปแล้ว เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2562 อธิบดีกรมควบคุมมลพิษของไทยส่งจดหมายถึงอธิบดีกรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของประเทศเมียนมา เพื่อขอความร่วมมือในการป้องกันและดับไฟป่า โดยระบุว่าเกิดปัญหาหมอกควันไฟป่าจนระดับมลพิษทางอากาศอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพในพื้นที่ภาคเหนือของไทย และมีเหตุพึงเชื่อได้ว่ามลพิษทางอากาศนี้อาจเกี่ยวเนื่องกับปัญหาไฟป่าในประเทศเพื่อนบ้านในแถบลุ่มน้ำโขง จึงเรียนมาเพื่อเรียกร้องให้ประเทศในลุ่มน้ำโขงร่วมมือกันเพื่อป้องกันและดับไฟป่าในอนุภูมิภาค

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: