Culture Corner ประจำวันที่ 9 สิงหาคม 2556
ในเทศกาลรอมฎอนที่ผ่านมา ชาวมุสลิมทั่วโลกต้องถือศีลอดกันอย่างเคร่งครัด แต่หลายประเทศในตะวันออกกลางกลับพบว่าประชาชนของตนเองอ้วนขึ้น และสุขภาพเสื่อมโทรมลงในช่วงเดือนรอมฎอน
เดือนรอมฎอนเป็นช่วงเวลาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวมุสลิมทั่วโลก อิสลามิกชนจะต้องปฏิบัติตนตามหลักธรรมทางศาสนาอย่างเคร่งครัด ศึกษาพระคัมภีร์อัล-กุรอาน สำรวมกาย วาจา และใจ แต่ที่สำคัญที่สุด ก็คือการถือศีลอด ไม่รับประทานอาหารและน้ำตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม
แน่นอนว่าการอดอาหารตลอดทั้งวันติดต่อกัน 1 เดือน ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพของชาวมุสลิม โรงพยาบาลหลายแห่งในตะวันออกกลาง ดินแดนที่มีประชากรมุสลิมอาศัยอยู่มากที่สุดในโลก ยอมรับว่าจำนวนผู้ป่วยในของทุกโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเดือนรอมฎอน โดยโรคยอดฮิตส่วนใหญ่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ไม่ว่าจะเป็นลำไส้อักเสบ ท้องร่วง อาหารไม่ย่อย และโรคแผลในกระเพาะอาหาร ไปจนถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับอาหารการกินอย่างเบาหวาน
โรคภัยไข้เจ็บเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากการอดอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการนอนไม่พอ และการขาดน้ำ จนทำให้ร่างกายสูญเสียภูมิต้านทานโรค นอกจากนี้โรคสว่วนใหญ่ยังเกี่ยวข้องกับการกินอาหารผิดเวลา กินมากเกินไปในช่วงหลังพระอาทิตย์ตกดิน รวมถึงการกินอาหารหวานจัด มันจัด ซึ่งเป็นที่นิยมในช่วงรอมฎอน เพื่อชดเชยน้ำตาลและสารอาหารที่ร่างกายสูญเสียไปตลอดทั้งวัน และเพื่อให้อิ่มท้องนานที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
ที่สำคัญ การกินอาหารหวานมันจัด และกินอาหารจำนวนมากๆในช่วงกลางคืน ยังทำให้ประชาชนจำนวนมากในโลกมุสลิม อ้วนขึ้นแทนที่จะผอมลง แม้จะถือศีลอดอย่างเคร่งครัดก็ตาม เนื่องจากเป็นที่รู้กันดีว่ากินอาหารแคลอรี่สูงๆในช่วงกลางคืนที่ร่างกายไม่ได้ใช้พลังงาน ทำให้อาหารที่กินเข้าไปสะสมกลายเป็นไขมันแทนที่จะทำให้คุณมีพลังงานมากขึ้น
และที่หลายๆคนอาจจะนึกไม่ถึงก็คือ มีความเจ็บป่วยและอุบัติเหตุจำนวนมากที่เกิดขึ้นในเดือนรอมฎอน และมีสาเหตุมาจากการถือศีลอด เช่นการเป็นลมหน้ามืด โดยเฉพาะในหมู่คนที่ทำงานกลางแจ้ง หรือคนงานก่อสร้างที่ต้องเผชิญกับแดดร้อนจัดทั้งวันโดยไม่ได้กินอาหารหรือน้ำ นอกจากนี้ยังมีรายงานอุบัติเหตุทางรถยนต์จำนวนมากที่เกิดขึ้นจากการที่คนขับหน้ามืดวิงเวียนกะทันหันระหว่างขับรถ เพราะไม่ได้รับประทานอาหารบวกกับการนอนไม่พอ
โรงพยาบาลในกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เปิดเผยว่ามีคนไข้ที่ป่วยจากการถือศีลอดมารับการรักษาถึง 7,700 คนภายในช่วงอาทิตย์แรกของเดือนรอมฎอน ขณะที่นักโภชนาการของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในดูไบก็บอกว่าในช่วงถือศีลอด มีผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษามากกว่าปกติ 5-6 คนทุกวัน
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าจริงๆแล้วการถือศีลอดไม่ได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพ การถือศีลอดอย่างถูกวิธี สามารถใช้ลดน้ำหนักได้ แต่การที่คนส่วนใหญ่อ้วนขึ้นและสุขภาพเสื่อมโทรมในช่วงรอมฎอน เป็นเพราะพวกเขากินอาหารมากเกินไปในช่วงละศีลอดตอนกลางคืน บวกกับอาหารที่กินเป็นอาหารแบบตะวันตกที่เต็มไปด้วยแป้ง ไขมัน และน้ำตาล ซึ่งเข้ามาอยู่ในวิถีชีวิตของชาวตะวันออกกลางและชาวมุสลิมทั่วโลก