ไม่พบผลการค้นหา
เคยสงสัยกันบ้างรึเปล่า ว่าทำไมแต่ละ Brand ดังๆ ถึงได้มี Logo ที่ดูสวยเท่ส์แบบไร้ที่ติกันนัก
เคยสงสัยกันบ้างรึเปล่า ว่าทำไมแต่ละ Brand ดังๆ ถึงได้มี Logo ที่ดูสวยเท่ส์แบบไร้ที่ติกันนัก แล้วเคยสงสัยมั้ยว่ากว่าจะมาเป็น Logo ปัจจุบัน อย่างของ Starbucks, Apple, Pepsi, Firefox ที่เราเห็นกันนั้น มีการเปลี่ยน logo กันมากี่ครั้ง แล้วหน้าตา logo สมัยนั้นมันเป็นอย่างไร  มีหลาย brand ที่เรานึกไม่ถึงเลยว่าจะเคยมี logo แบบนี้มาก่อน 
 
เวบไซต์มาร์เก็ตติ้ง อุ๊บส์ รวบรวมที่มาของแบรนด์ดังระดับโลกรวม 15 แบรนด์ มาฝากคุณผู้ชมอีกครั้ง เริ่มกันที่แบรนด์แรกอย่าง สตาร์บั๊ค ที่ยังคงสไตล์ความกลมของ Logo เดิมเอาไว้ แต่สังเกตุว่าเคยมีการเปลี่ยนชื่อเป็น IL Giornale ก่อนทีจะเปลี่ยนกลับมาเป็น Starbucks อีกครั้ง กับ Logo สีเขียวกลม ที่เรานิยมมองหาเวลาอยากดื่มกาแฟอร่อย  
 
มาต่อกันที่ อะโดบี้ ที่เมื่อก่อน Adobe เริ่มต้นธุรกิจเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมบน desktop publishing ทำให้ Logo ชิ้นแรกดูเหมาะไปทางนั้นมากกว่า จากนั้นก็เริ่มจะเน้นตัว A ให้ดูมีสไตล์ แต่สุดท้ายตัว A อาจจะยังไม่สื่อถึง Adobe เท่าไหร่ จึงกลับมาใช้ชื่อเต็มอีกครั้ง และเป็น Logo ในแบบที่เราคุ้นตากัน
 
ส่วนแบรนด์ระดับโลกที่ไม่มีใครไม่รู้จัก อย่าง Apple Inc. ซึ่ง Logo ชิ้นแรกถูกออกแบบในปี 1976 โดย Ronald Wayne จะเห็น Logo เป็นรูปผู้ชายหรือ sir Isaac Newton นั่งอยู่ใต้ต้นไม้พร้อมกับผล Apple ลอยอยู่เหนือหัว /หลังจากที่ Apple กลายเป็นบริษัทโด่งดัง  Logo Apple ก็ดูจะเปลี่ยนไปด้วย กลายเป็น Apple ที่ถูกกัดไปแล้วหนึ่งเสี้ยวพร้อมสีสันที่ปรับให้ตรงกับสินค้าของ Apple ในแต่ละยุคสมัย ก่อนจะกลายเป็นโทนสีเงินในปัจจุบัน 
ชื่อ Apple ก็มาจากการที่ Steve Jobs ตอนสมัยหนุ่มๆ ชอบไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ ที่สวน Apple จึงตั้งชื่อบริษัทตามนั้น ส่วน Mac มีชื่อเดิมมาจาก Macintosh ซึ่งเป็นชื่อที่บังเอิญเขียนผิดมาจาก apple พันธุ์ Mcintosh นั่นเอง    
 
เซิร์ชเอนจิ้นอันดับหนึ่งของโลกต้อง Google ซึ่ง Logo ของ Google นั้นดูไม่เปลี่ยนแปลงมาก แค่รู้สึกว่าโตขึ้น ถ้าสังเกตจะเหมือน Logo เด็กที่โตมาเป็นผู้ใหญ่ ที่สำคัญ  Logo ปี 1998 มีเครื่องหมาย '!' ด้วยนะ 
 
ตามมาด้วยเว็ปอินเตอร์เน็ต อย่างแบรนด์ Firefox กันบ้าง ก่อนจะกลายเป็นจิ้งจอกไฟในวันนี้ Firefox เคยมีสองชื่อ คือ นกฟีนิกส์ 'Phoenix' และ นกไฟ 'Firebird' มาก่อน แต่ชื่อที่ตั้งไว้นี้เกิดไปซ้ำกับ Browser เจ้าอื่นที่ถือ trademark ไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้ Firefox ต้องเปลี่ยนชื่อเป็น "Mozilla Firefox" กับ Logo ใหม่ที่มีจิ้งจอกกอดลูกโลกแทน  
 
IBM IBM ใช้ตัวหนังสือเป็นลูกเล่นของ Logo มาโดยตลอด จนในปี 1947 IBM เปลี่ยน Logo มาเป็น font สไตล์อ่านง่ายขึ้นและบ่งบอกความเป็นคอมพิวเตอร์ด้วยตัวพิมพ์ ก่อนปรับปรุงครั้งสุดท้ายในปี 1972 พร้อมกับเติมสีฟ้าลงไปใน Logo  
 
Microsoft ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่เน้นออกแบบ Logo ด้วยตัวหนังสือและยึดคำว่า Microsoft มาโดยตลอด จนปีหลังๆ ที่ Microsoft เริ่มเติมสโลแกนเข้ามาด้วย คำสุดท้ายที่ใช้คือ 'Your potential. Our passion' จนถึงทุกวันนี้ เช่นเดียวกับ Kodak ที่เริ่มต้น Logo ด้วยสไตล์ art ของตัวหนังสือ และมีการเปลี่ยนมาหลายรูปแบบ แต่ยังคงเน้นสีแดงและส้มไว้ จนเหลือเพียงคำว่า Kodak สีแดงในปัจจุบัน  
 
Nike ก็มี Logo ชิ้นแรกที่ถูกออกแบบในปี 1971 โดย Carolyn Davidson มาในรูปแบบที่เน้นปีกของเทพธิดาของกรีกที่ชื่อ 'Nike' เช่นเดียวกับที่บริษัทนำมาตั้งชื่อแบรนด์ ซึ่ง Nike พยายามเปลี่ยน Logo มาหลายครั้ง และสุดท้ายเหลือเพียงแค่คำว่า Nike ที่ดูเก๋ที่สุดแล้ว  
 
ค่ายมือถืออย่าง Nokia ก็เริ่มต้น logoในแนวแปลกๆ คล้ายๆ กับ Apple / Logo ชิ้นแรกดูเหมือนร้านขายปลามากๆ เนื่องจากตอนนั้น Nokia ยังผลิตกระดาษอยู่ในประเทศ Finland และได้เปลี่ยนมาผลิตตราแสตมป์แทนในปี 1898 จากนั้นเริ่มปรับ Logo ให้ดูเป็น Nokia มากขึ้นในปี 1965 หลังจากมีการควบรวมกิจการและเปิดบริษัทภายใต้ชื่อ Nokia Corporation /ในปี 1998 Nokia ถึงจะเริ่มแสดงความเป็น modern ใน Logo ของตัวเองและกลายเป็น Nokia, Connecting People ในปัจจุบัน   
 
Pepsi นี่โด่งดังมากกับการเปลี่ยน Logo เมื่อปลายปีที่ผ่านมา /จริงๆ แล้ว Pepsi Cola เปลี่ยนรูปแบบ Logo มาโดยตลอด ตั้งแต่ตัวหนังสือสไตล์คลาสสิคมาจนมาถึงตัวหนังสือที่เรียบง่ายบนฝา Pepsi ส่วน 3 สีที่บ่งบอกความเป็น Pepsi นั้นเริ่มต้นในปี 1998 และยังคงเปลี่ยนเรื่อยมาจนได้ Logo ชิ้นที่ดูดีที่สุด และถูกวิจารณ์น้อยที่สุด นั่นก็คือดีไซน์ตัวล่าสุดนั่นเอง 
 
ข้ามมาฝั่งค่ายรถยนต์กันบ้างกับ Ford ที่ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1903 ทำให้มี Logo หลายชิ้น และเมื่อก่อน Ford มีชื่อเต็มว่า 'Ford Motor Co' Logo ชิ้นแรกจึงต้องมีชื่อเต็ม ต่อมาปี 1912 ได้มีการปรับเปลี่ยน Logo ให้เหลือเพียงคำว่า Ford และถูกเพิ่มสีฟ้าเข้าไป จากนั้นก็ปรับเปลี่ยนมาเรื่อยๆ จนได้ Logo ที่ถูกใจในปี 2003 และใช้มาจนถึงทุกวันนี้ Logo ชิ้นล่าสุด มีชื่อว่า "Centennial Blue Oval"   ต่อด้วย อัลฟ่าโรมีโอ ที่มีการ Re-branding ครั้งใหญ่ เมื่อปี 1910 Alfa Romeo โดยเปลี่ยน Logo มาในรูปแบบวงกลม จากนั้นก็ปรับปรุง Logo มาตลอดจนถึงปัจจุบัน
 
Logo เปอร์โย มีสิงโตมาตั้งแต่ปี 1850 ที่ถูกปรับเปลี่ยนก็จะเป็นการเปลี่ยนท่าทางการยืนของสิงโต จนปี 1998 Logo ของเปอร์โยได้ถูกปรับให้ดู modern มากขึ้น และเริ่มจะมีสีบนพื้นหลังในปีเดียวกัน Logo ชิ้นสีฟ้าถูกนำมาใช้จนถึงทุกวันนี้     
  
ตบท้ายด้วยแบรนด์น้ำมันอย่าง Shell นั้น Logo ของ Shell เริ่มจากเปลือกหอยของจริงตั้งแต่เริ่มต้นมาถึงปี 1909 จึงมีการปรับแต่ง graphic และลายเส้นให้ดูเฉียบคมขึ้น พร้อมเพิ่มสี Logo ส้มแดงตามยุคสมัย และจนมาถึงเปลือกหอยชิ้นสุดท้าย ที่ดูเรียบง่ายและบอกถึงความเป็น Shell ในตัว    
Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog