ที่ประเทศจีน ชาวจีนในหมู่บ้านฮวาฟู จังหวัดซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง บ้านเกิดของพระราชบิดาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก็มีพิธีแสดงความเคารพต่อพระองค์
ช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี ชาวตำบลเฉิงไห่ จังหวัดซัวเถา ในมณฑณกวางตุ้งของประเทศจีน จะจัดพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษของพวกเขา
หนึ่งในของเซ่นไหว้ที่เห็นเรียงรายกันอยู่นี้ เป็นของลูกหลานตระกูลเจิ้ง ที่นำมาเคารพบรรพบุรุษ ที่เป็นหนึ่งในกษัตริย์ของกรุงสยามนั่นคือ "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช"
สารคดีของสถานีโทรทัศน์ ซีซีทีวี 9 ซึ่งโพสต์ไว้บนเว็บไซต์เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2552 รายงานว่า พระเจ้าตากสิน มีชื่อเดิมว่าเจิ้งซิ่น เป็นบุตรของนายเจิ้งย่ง ชาวจังหวัดซัวเถา ที่เดินทางมาทำอาชีพค้าขายที่กรุงศรีอยุธยา เจิ้งซิ่นได้รับการศึกษาอย่างดีภายใต้การเลี้ยงดูของพระยาพระคลัง บิดาบุญธรรม
หลังจากที่กรุงศรีอยุธยาพ่ายแพ้ต่อพม่า ในปี 2310 เจิ้งซิ่นได้พยายามรวบรวมสยามให้กลับมาเป็นปึกแผ่นเช่นเดิม โดยใช้กองทัพที่มีส่วนผสมของทหารไทยและจีน และได้สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นกษัตริย์ในราชวงศ์ธนบุรี เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2310 นับเป็นกษัตริย์คนแรกของไทยที่มีเชื้อสายจีน และเป็นชาวจีนคนแรกที่ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์นอกประเทศจีน
ไม่กี่ปีให้หลัง ชาวจีนที่เข้าร่วมในกองทัพพระเจ้าตากสินก็เดินทางกลับประเทศด้วยเรือสำเภา พร้อมกับโอ่ง 18 ใบ ซึ่งได้รับพระราชทานมาจากพระองค์ เมื่อถึงกลางทาง ชาวจีนเหล่านี้อยากรู้ว่าภายในโอ่งมีอะไรซ่อนอยู่ จึงเปิดดู แต่แล้วก็พบแต่เพียงผักดองเท่านั้น
ด้วยความผิดหวัง ชาวจีนจึงพากันโยนโอ่งลงทะเลจนเกือบหมด มีเพียงโอ่ง 1 ใบที่เหลือรอดไปยังหมู่บ้านปลายทาง ซึ่งภายหลังพบว่ามีของมีค่าบรรจุอยู่ข้างใต้ผักดองจำนวนมาก โอ่งดังกล่าวได้รับการเก็บรักษาอย่างดีที่หมู่บ้านฮวาฟู จังหวัดซัวเถา จนถึงปัจจุบัน ถือเป็นสายสัมพันธ์ที่เป็นรูปธรรมสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ระหว่างพระเจ้าตากสินกับคนในหมู่บ้านฮวาฟู บ้านเกิดของพระราชบิดาของพระองค์
สารคดีเรื่องนี้รายงานว่า ตลอดรัชสมัยของพระองค์ ชาวจีนกับชาวไทยได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมกัน พระองค์รวบรวมทหารจีนและสยามในกรุงธนบุรี เพื่อต่อสู้กับการรุกรานของต่างชาติ ซึ่งพ่อค้าจีนในสยามก็ให้การสนับสนุนการทำสงคราม ด้วยการบริจาคเงินจำนวนมาก
ศาสตราจารย์ชี มูจวน แห่ง South China University of Techonology ผู้เขียนหนังสือ King Taksin กล่าวว่าการที่พระเจ้าตากสินมีเชื้อสายจีน ทำให้สานสัมพันธ์กับชาวจีนในไทย และประเทศจีนได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชยังได้ส่งเสริมให้พ่อค้าชาวจีนจากชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจีนเดินทางทำการค้าขายในสยาม ซึ่งนโยบายดังกล่าวนี้ ทำให้ชาวจีนจำนวนมากเดินทางสู่สยาม จนจำนวน 4 ใน 5 ของชาวจีนในไทยทั้งหมด เป็นชาวจีนจากซัวเถา
หลังเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2325 ชาวจีนจากหมู่บ้านฮวาฟูที่ยังคงอยู่ในสยาม นำเครื่องทรงของพระองค์ 2 ชุด เป็นเครื่องทรงไทย 1 ชุด เครื่องทรงจีน 1 ชุด กลับไปยังหมู่บ้านเพื่อรำลึกถึงพระองค์ รวมทั้งสร้างสุสานที่บริเวณอู๋หย่าย ในหมู่บ้านฮวาฟู ตำบลเฉิงไห่ จังหวัดซัวเถา ในมณฑณกวางตุ้ง ของประเทศจีน ถือเป็นสุสานกษัตริย์ต่างประเทศที่เดียวที่อยู่ในประเทศจีน
นอกจากนี้ชาวบ้านในหมู่บ้านฮวาฟู ยังเตรียมพัฒนาสถานที่รำลึกดังกล่าวให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2540 แต่ขาดแคลนงบประมาณ จึงทำให้แผนการดังกล่าวล่าช้ามากว่าหนึ่งทศวรรษ และช่วงที่ผ่สนมา สุสานดั้งเดิมถูกน้ำท่วมเสียหายในช่วงราชวงศ์ชิง จึงเหลือเพียงสุสานใหม่ที่ยังคงตั้งตระหง่าน เป็นหลักมั่นให้ลูกหลานทั้งชาวไทยและชาวจีนระลึกถึงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชตราบจนถึงปัจจุบัน
Produced by VoiceTV