ไม่พบผลการค้นหา
ค่านิยมใหม่สายแฟชั่น “สักรองพื้น” มาตรฐานต่ำถึงขั้นเสี่ยงโรคร้าย สวทช. แจงคุณภาพต้องมาก่อนสวย

จากค่านิยมของสาวๆ สายแฟชั่น ที่รักการแต่งหน้าเสริมสวย ที่หันมานิยมการฝังสีที่เรียกกันว่า BB GLOW TREATMENT ซึ่งลักษณะการฝังสีจะคล้ายๆกับการสักแต่เปลี่ยนจากสีสันเป็นสีเนื้อที่มีความสว่างกว่าผิวหน้าปกติ ซึ่งบางคนก็จะเรียกวิธีการนี้ว่าสักรองพื้น ซึ่งบางครั้ง มีการเรียกชื่อที่แตกต่างไป เพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เป็นการทำทรีทเมนต์บ้าง หรือ ลีนโกลว์บ้าง และหลายคนเชื่อว่า จะช่วยให้หน้าสดก็ดูดีขึ้นได้

แต่จากการตรวจสอบ อย่างละเอียดแล้ว กลับพบว่า มีผู้บริโภคหลายคน ได้รับผลกระทบจากการ สักรองพื้นแบบนี้เป็นจำนวนมาก และ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีใครทราบว่า สีที่นำมาใช้สักนั้นเป็นสีชนิดใดและมีมาตรฐานในระดับใด ก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น การแพ้สารน้ำที่ใช้สักแล้วเกิดผื่นหรือก้อน (Granuloma) , การเกิดรอยคล้ำบริเวณที่สัก , การติดเชื้อที่เกิดจากการปนเปื้อนเชื้อโรคของเข็มและน้ำที่ใช้สัก เช่น เชื้อแบคทีเรีย, เชื้อรา, เชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี และเชื้อไวรัสเอชไอวี เป็นต้น , ผิวหนังที่ได้รับการทำ BB Glow Treatment หรือการฝังสีรองพื้นกึ่งถาวร มีความเสี่ยงต่อการไหม้ หรือสีผิวเปลี่ยนแปลงจากการยิงเลเซอร์ เพราะสีเนื้อที่สักเข้าไปในผิวหนังสามารถทำปฎิกิริยากับแสงเลเซอร์ได้ ซึ่งในปัจจุบันได้มีแพทย์ผิวหนังหลายท่านออกมาเตือนให้ระวังการสักผิวหนังประเภทนี้

ณฏฐพล วุฒิพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ สวทช.หรือ (NCTC) กล่าวว่า จากข้อกังวลของผู้บริโภคที่นิยมเรื่องความสวยงาม พบว่าผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้หลายชนิด เป็นผลิตภัณฑ์ที่อาจยังไม่ได้รับมาตรฐานที่ถูกต้อง โดยมีการลักลอบนำมาใช้อย่างไม่ถูกต้อง ทำให้มาตรฐานความปลอดภัย เรื่องความสะอาด และคุณภาพของน้ำที่ใช้สัก อาจมีสารก่อให้เกิดมะเร็งและสารก่อให้เกิดโรคอื่นๆได้ ดังนั้นการนำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับความสวยความงามมาใช้ ควรจะต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบที่มีมาตรฐาน ซึ่งทางศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ สวทช. ก็มีศักยภาพและความสามารถในการวิเคราะห์และทดสอบสารเหล่านี้ได้ สามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและผลิตภัณฑ์ในระยะยาว

ทั้งนี้ความสวยงามจาก BB Glow Treatment หรือการฝังสีรองพื้นกึ่งถาวรนั้น แม้จะเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์สำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาเรื่องผิวไม่เรียบเนียน และสีผิวไม่สม่ำเสมอได้ง่ายขึ้น แต่ก็ต้องผ่านผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เสียก่อน และสำหรับเจ้าของผลิตภัณฑ์ หรือผู้นำเข้าที่อยากสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ก็สามารถนำผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์เข้าทดสอบได้ที่ ศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ สวทช. (NCTC) อาคารกลุ่มนวัตกรรม 2 ทาวเวอร์ C ชั้นที่ 3 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย คลองหลวง ปทุมธานี โทร. 064 989 6362 , 02 117 6850 ต่อ 0 โทรสาร 02 117 6851 และ email : nctc@nstda.or.th และ เว็บไซต์ www.nctc.in.th

23426.jpg