"เต๋า" สมชาย เข็มกลัด ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนที่สนใจ จนทำให้ติดตามคนร้ายที่ยิงน้องชายได้ แจงปล่อยให้เป็นตามกระบวนการของกฏหมาย
"เต๋า" สมชาย เข็มกลัด ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนที่สนใจ จนทำให้ติดตามคนร้ายที่ยิงน้องชายได้ แจงปล่อยให้เป็นตามกระบวนการของกฏหมาย
เว็บไซต์คมชัดลึก รายงานว่า ก่อนหน้านี้เป็นข่าวครึกโครม กรณีเด็กช่างกลตีกัน ทำให้ "นิว" ศตวรรษ จำนงภักดิ์ น้องชายวัย 19 ปีของ "เต๋า" สมชาย ซึ่งเป็นลูกของน้าสาวโดนลูกหลงถูกยิงเสียชีวิต เมื่อหลายวันก่อน ถามความคืบหน้าขอคดีความจากนักแสดงหนุ่ม ในงานแถลงข่าวเปิดตัวพ็อกเก็ตบุ๊ก "โปรน้อง...ผู้ค้นคิดศาสตร์เคาะของโลก" ของ "น้อง" กิรณา แก้วกาหลง ที่ห้องอโนมา 2-3 โรงแรมอโนมา ได้ความดังนี้
"ตอนนี้ผมก็รู้ความคืบหน้าเท่าๆ กับพี่ๆ นักข่าว คือจับตัวคนร้ายได้ และเขาก็รับสารภาพว่าเป็นคนยิง ส่วนขั้นตอนของการพิจารณา ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของกฏหมาย ตอนนี้อยู่ที่กระบวนการความยุติธรรม มันชัดเจนว่าเราอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ กติกาของสังคม คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่กระบวนการของความยุติธรรม อยากจะบอกว่าจริงๆ แล้ว เหตุการณ์แบบนี้ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครเลย" เต๋ากล่าว
นอกจากนี้เต๋ายังบอกด้วยว่า น้องสมใจและน้องสุขใจ ลูกชายและลูกสาวของเขาต่างสนิทกับผู้ตาย
"น้าผมมาช่วยดูแลตั้งแต่สุขใจอายุ 3 เดือน ตอนนี้สุขใจอายุ 2 ขวบจะ 4 เดือน เขาอยู่กับผมมา 2 ปีกว่าแล้ว และตัวน้องนิวลูกชายของน้าผม ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ไปโรงเรียนเพราะเขาเป็นโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง โรคเดียวกับพุ่มพวง ทำให้ไขข้อสะโพกเสื่อมเขาเดินไม่ได้แล้วเราพยายามจะรักษาเขาที่ รพ.ตำรวจ ซึ่งการรักษาทำให้จากที่เดินไม่ได้สามารถใช้ไม้เท้าเดินได้แต่วิ่งไม่ได้ และเอฟเฟกท์ของการทานยาทำให้กระดูกพรุนและสายตาไม่ดี ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตก็เพิ่งกลับจากไปเรียนได้ 8 วัน มันเป็นสิ่งที่เลวร้าย ผมเชื่อว่าทุกคนรู้และเข้าใจว่าผมรู้สึกอย่างไร" เต๋ากล่าด้วยน้ำเสียงขรึม ก่อนจะกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจ
"ผมเข้าใจว่าทุกคนพยายามทำดีที่สุด และต้องพยายามกันต่อไป ผมต้องขอขอบคุณ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือแม้กระทั่งสื่อที่ให้ความสนใจและช่วยเราให้เจอตัวคนร้าย ที่เหลือคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เพราะเราคงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องตรงนั้น เราอยู่ในกฏระเบียบภายใต้กฏหมายเดียวกันอยู่แล้ว ผมเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ยอมรับในการตัดสินในทุกคำตัดสินอยู่แล้ว" พ่อลูกสองกล่าวปิดท้าย