นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายศรายุทธ ใจหลัก ผอ.พรรคอนาคตใหม่ จัดรายการ 'เดินหน้าอนาคตใหม่' EP4 เปิดเผยถึงผลการรับสมัคร ผู้เข้ารับการสรรหาเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้บริหารและสมาชิกสภาอบจ. ในนามพรรคอนาคตใหม่ ระหว่างวันที่ 15 ก.ค. - 15 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า มีทั้งหมด 77 ทีม จาก 44 จังหวัด ครบทุกภาคทั่วประเทศ หลังจากนี้ คณะกรรมการกลั่นกรองฯ จะตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสาร เพื่อนำข้อมูลให้คณะกรรมการสรรหาฯ พิจารณา หากแนวทางไม่สอดคล้องกับพรรคก็จะถูกตัดออก ถ้าสอดคล้องก็จะมีการสัมภาษณ์ ถ้ามีหลายทีมก็อาจจะมีการแข่งขั้นโดยการเปิดให้ดีเบตกัน ก่อนตัดสินใจ หากมีทีมเดียวก็จะใช้การสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์กับสมาชิก ซึ่งการกำหนดวันเลือกตั้งอบจ.ของรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า จะมีขึ้นในเดือนก.พ.63 จึงเลื่อนเปิดตัวทีมผู้สมัครฯไปไม่เกินสิ้นเดือน ต.ค.นี้ แล้วจะเริ่มรณรงค์หาเสียง 3 เดือน 

นายธนาธร กล่าวว่า ตนได้รับอำนาจพิเศษจากกรรมการบริหารพรรค ให้คัดจังหวัดพิเศษนำร่องโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อให้มีจังหวัดต้นแบบ 3 จังหวัดคือ จ.นนทบุรี จ.บึงกาฬ ส่วนอีกจังหวัดหนึ่งยังพิจารณาอยู่ ซึ่งจ.บึงกาฬ ไม่มีปัญหามีผู้สมัครทีมเดียว แต่จ.นนทบุรีถือเป็นครั้งแรกของพรรคอนาคตใหม่ ที่มี 2 ทีมสมัครเข้าร่วม ซึ่งจะเปิดให้มีการประชันวิสัยทัศน์กัน โชว์นโยบาย ทักษะความเป็นผู้นำ ไหวพริบในการตอบคำถาม ในวันที่ 1 ก.ย. เวลา 14.00-16.00 น. จากนั้น จะเปิดให้มีการทำไพรมารีโหวตออนไลน์ สำหรับสมาชิกพรรคในจ.นนทบุรี โดยจะนำมาคิดคะแนนเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 70 เปอร์เซ็นต์ มาจากการลงคะแนนของกรรมการบริหารและผู้บริหารพรรค 

นายศรายุทธ กล่าวว่า ศักยภาพของพรรคเรายังไม่มาก แม้มีผู้สมัครเข้ามา 44 จังหวัด แต่เราจะเลือกเหลือ 15 จังหวัด บวกลบ 3 จังหวัดเท่านั้น ยอมรับว่า พรรคยังไม่เข้มแข็งมากพอในการลงไปแข่งได้ทุกจังหวัด เราทำตามสภาพความเป็นจริง ต้องการทำให้ตัวแทนที่ได้รับเลือกมีคุณภาพที่ดีถือเป็นตัวแทนของพรรคก่อน