วันนี้ (30 เมษายน 2568) นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “วันคุ้มครองผู้บริโภคไทย ประจำปี 2568” ณ ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร พร้อมปล่อย “คาราวานคุ้มครองผู้บริโภค” ลงพื้นที่ทั้ง 4 ภูมิภาค ครอบคลุม 20 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเผยแพร่ความรู้ ตรวจสอบพฤติการณ์ของผู้ประกอบธุรกิจ และส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักสิทธิของตนเอง พร้อมชี้แจงแนวทางปฏิบัติตามกฎหมายกับผู้ประกอบการรายย่อยเพื่อลดการละเมิดสิทธิผู้บริโภค

โดยที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ได้ขับเคลื่อนงานการคุ้มครองผู้บริโภคจากการใช้สินค้าและบริการ เป็นเวลามากกว่า 4 ทศวรรษ โดยในช่วงปีที่ผ่านมา สคบ. มีบทบาทสำคัญในการพิทักษ์สิทธิของประชาชน และเกิดผลเป็นรูปธรรม อาทิ

(1) การบังคับใช้มาตรการส่งดี (Dee-Delivery) ที่ให้สิทธิผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าแบบเก็บเงินปลายทาง (COD) สามารถขอเปิดดูสินค้าก่อนจ่าย หากพบว่าสินค้า ไม่ตรงปก ชำรุดบกพร่อง หรือไม่ได้สั่ง สามารถปฏิเสธการชำระเงินได้ โดยบังคับใช้เมื่อ 3 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา

(2) การจัด “มหกรรมไกล่เกลี่ยเรื่องร้องทุกข์” ซึ่งเป็นการรวมข้อพิพาทที่มีลักษณะคล้ายกันมาไกล่เกลี่ยแบบหมู่คณะ ช่วยให้การเยียวยาความเสียหายเกิดขึ้นได้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า

(3) การบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค จากกรณีธุรกิจที่หลอกลวงประชาชนในลักษณะแชร์ลูกโซ่ ซึ่งล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบการตั้ง ‘คณะกรรมการบูรณาการประกอบธุรกิจที่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่’ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาในเชิงรุก

(4) การเป็นหน่วยงานกลางในการบูรณาการร่วมกับ 22 หน่วยงาน ปราบปรามการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในเด็ก-เยาวชน ตามข้อสั่งการของท่านนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร เป็นต้น

นางสาวจิราพร กล่าวว่า 'ภารกิจของ สคบ. ไม่ใช่เพียงการบังคับใช้กฎหมายตามหน้าที่ แต่คือการทำให้ประชาชนทุกคนมีพื้นที่ยืน เกิดสังคมแห่งการบริโภคที่ยั่งยืน แม้ สคบ. จะมีข้อจำกัดด้านบุคลากรหรือทรัพยากร แต่ก็สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง ที่จับต้องได้หากยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง การดำเนินการดังกล่าวจึงไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่คือการ ฟื้นฟูศรัทธา เมื่อประชาชนต้องการที่พึ่ง รัฐจะอยู่เคียงข้างเสมอ'

วันที่ 30 เมษายนของทุกปี ถือเป็น “วันคุ้มครองผู้บริโภคไทย” อันมีที่มาจากพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ที่ประกาศใช้มาแล้วกว่า 46 ปี ภายในงานปีนี้ได้จัดกิจกรรมให้ความรู้และสร้างความบันเทิงควบคู่กัน เช่น การเสวนาในหัวข้อ “สคบ. ยุคใหม่ พัฒนาการคุ้มครองผู้บริโภคสู่ความเป็นธรรมที่ยั่งยืน” การจำหน่ายสินค้า OTOP และการประกวดวงดนตรีอีกด้วย

ทั้งนี้ สคบ. มุ่งมั่นที่จะยืนหยัดเคียงข้างประชาชน พร้อมติดตามเฝ้าระวังผู้ประกอบธุรกิจให้ดำเนินกิจการอย่างมีคุณธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค หากประชาชนถูกละเมิดสิทธิสามารถร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชัน OCPB Connect หรือ เว็บไซต์ www.ocpb.go.th หรือขอคำปรึกษาได้ที่สายด่วน 1166